ท่องเที่ยว เล่าขาน “ นานเท่านาน ขอเฝ้าคอย แม้ร้อยปี “

(ถ้ำผานางคอย) ตามที่ภาครัฐประกาศเปิดประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวและทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวกลับมาอย่างคึกคัก จังหวัดแพร่เป็นอีกหนึ่งจุดสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคเหนือที่สวยงานและในช่วงฤดูหนาว นี้ ขอแนะนำ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีเรื่องเล่าขานถึงตำนานความรักนับร้อยปีของเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์กับชายคนรัก “ ถ้ำผานางคอย “ ปัจจุบันนี้ได้รับการปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใหจังหวัดแพร่

ถ้ำผานางคอยเป็นภูเขาหินปูน ปกคลุมด้วยต้นไม้ ตัวถ้ำตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 50 เมตร กว้าง 10 เมตร เป็นอุโมงค์ลึกยาว 150 เมตร อยู่กลางป่า ภูเขาล้อมรอบเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางธรรมชาติ ถ้ำผานางคอย เป็นถ้ำที่มีมายาวนาน เป็นถ้ำที่เกิดจากธรรมชาติ ภายในถ้ำเป็นพื้นดินเรียบ ผนังถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาน ลักษณะของถ้ำโค้งงอเป็นข้อศอกไปทางซ้ายและขวาเป็น 3 ตอนด้วยกัน แต่ละจุดมีการติดไฟประดับสีและป้ายบอกถึงประวัติศาสตร์ บอกเล่าตำนานโดย จะแบ่งออกเป็น 13 จุด เป็นทางเดินเชื่อมต่อกัน แต่ละจุดชื่อแตกต่างกัน ไปได้แก่- คูหาสวรรค์วิเศษ -เทพอารักษ์นครา -นาคาสถิต – งานพิศอนงค์สนาม – หิมพานต์วิจิตร -เนรมิตม่านแก้ว -มรกตเพริดแพร้ววิจิตรา – บูชาพระมุนี – นทีชงเนตร – ธารเทพอธิการ – คชสารพิทักษ์ -ลานรักพระนาง -อลังการแห่งรัก อรัญญานี ซึ่งเป็นลานหัวใจสำคัญของถ้ำ ที่อยู่ถัดจากลานรักพระนาง ห่างไปเล็กน้อยจะเป็นปากถ้ำอีกด้านหนึ่งที่สูงขึ้นไปมีความกว้างถึง 15 เมตร ก่อนถึงปากถ้ำด้านหลัง จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชา เลยพระพุทธรูป ไปจะเห็นทางเดินสู่ปากถ้ำด้านหลัง เดินขึ้นตามบันไดไป ด้านบน จะพบลานหิน กว้างไม่มากนัก จะพบ ศาลไม้ขนาดใหญ่ มีรูปพระนาง อรัญญานี พร้อม เครื่องสักระบูชา หินปูนที่หยดย้อยลงมาก่อเกิดรูปทรงเหมือนผู้หญิงอุ้มลูกน้อยนั่งอยู่บนแท่นหิน ผู้มาเยือนต้องยืนอยู่ห่างจากหิน ประมาณ 10 เมตร จึงจะมองเห็นได้ชัดว่าเป็นรูปร่างเหมือนผู้หญิงอุ้มลูก ลานกว้าง มองเห็นวิวทิวทัศน์ ด้านล่าง ได้อย่างสวยงานมาก

ลานหิน กว้าง คงเป็นที่พระ นาง อรัญญานี อุ้มลูกน้อยนั่งรอคอยการกลับมาของชายอันเป็นที่รักเป็นที่สุดท้าย เมื่อ 800 ปีก่อนนั้น ตามตำนานเล่าขาน อาณาจักรแสนหวี มีกษัตริย์องค์หนึ่งเป็นผู้ทรงทศพิธราชธรรม มีพระราชธิดาองค์หนึ่ง ที่มีรูปลักษณ์ หน้าตาสวยงาน ทรงพระนามว่า “ อรัญญานี “ ทรงเป็นคนมีพระทัย โอบอ้อมอารีย์ ในครั้งหนึ่งพระนางทรงสำราญ มาทางชลมารค พร้อมด้วยข้าราชบริพารต่างๆ แต่เรือพระที่นั่งถูกพายุพัดจนจมลง พวกข้าราชบริพารต่างพากันหนีเอาตัวรอดกันหมด เว้นแต่คะนองเดช หัวหน้าฝีพายหนุ่ม ได้เข้ามาช่วยพระนางไว้ได้ทัน และพาพระนางเข้าถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย ด้วยความใกล้ชิดเลยเกิดเป็นความรักระหว่างข้ากับเจ้า พระนางนั้นได้ประพฤติล่วงราชประเพณีผิดกฎมณเฑียรบาล เลยถูกลงโทษขณะทรงพระครรภ์ คะนองเดช ผู้ซื่อสัตย์ ได้เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยพระนางและหนีไปพร้อมกัน แต่ทหารหลวงออกติดตามมาจนพบและเล็งธนูตั้งใจจะยิงคะนองเดช แต่ลูกธนู พลาดไปถูกเจ้าหญิงที่กลางอก คะนองเดช จึงอุ้มเจ้าหญิงหนีเข้ามายังถ้ำแห่งนี้ ด้วยความรักอันบริสุทธิ์พระนางได้บอกให้รีบหนีไปก่อน ที่ทหารจะตามมาพบ เจ้าหญิงได้พูดกับคะนองเดช ว่า “หญิงจะรออยู่ที่นีชั่วกัลปวสาน” ด้วยแรงอธิษฐานและความเด็ดเดี่ยวในน้ำใจที่ซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ทำให้ร่างของพระนาง อรัญญานี กลายเป็นหิน หันหน้าไปทางทิศตะวันตก มือโอบพระโอรสไว้บนตัก เบื้องหน้าของพระนางมีหินย้อยเป็นรูปหัวใจสีขาวบริสุทธิ์ ประดับด้วยเพชร เลยกลายเป็นสัลักษณ์ของดวงใจอันบริสุทธิ์ที่ปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ เป็นที่มาของชื่อ “ ถ้ำผานางคอย “ตำนานเล่าขาน

อรัญญานี…จะคอยพี่…อยู่ที่นี่
แม้ร้อยปี…นานเท่านาน…ยังคงหวัง
ขอเฝ้าคอย…แม้จะสิ้น…ลมพลัง
ชาติหน้ายัง…คงคอยพี่…อยู่ที่เดิม

ถ้ำผานางคอยจัดให้มีงานประจำปีของถ้ำ โดยกำหนดให้วันที่ 13 – 20 เมษายน ของทุกปีเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.การเดินทาง สู่จังหวัดแพร่ ตามเส้นทางสายแพร่ – ร้องกวาง – น่าน (ทางหลวงหมายเลข 101 ) ถึงกิโลเมตรที่ 58 – 59 เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 800 เมตร (ถ้ำผานางคอย)ตั้งอยู่ที่บ้านผาหมู อำเภอ.ร้องกวาง จังหวัด.แพร่ อยู่ห่างจากจังหวัดประมาณ 34 กโลเมตร

ภาพ/ข่าว
ราเชนทร์ โชติถนอมกิจ
แพร่.รายงาน