กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะพ่อแม่ชวนลูกขยับเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต และสร้างพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ รวมทั้งยังเป็นการสานสัมพันธ์ภายในครอบครัว
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันพ่อแม่มักนิยมใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูก เพื่อหวังจะให้ลูกอยู่นิ่งๆ ไม่ซุกซนวุ่นวายและมีความเชื่อว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเรื่องพัฒนาการของเด็กได้ ทั้งที่จริงแล้ว อุปกรณ์เหล่านี้กลับทำให้พัฒนาการของเด็กแย่ลง ทั้งด้านภาษา สมาธิ และสังคม โดยเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 5 ปี เป็นวัยที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย หรือมีกิจกรรมทางกาย ทั้งกับพ่อแม่ เพื่อน หรือด้วยตนเอง
นายแพทย์อรรถพล กล่าวต่อไปว่า กลุ่มวัยทารก อายุ 0-1 ปี พ่อแม่ควรเน้นให้เด็กมีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การนอนคว่ำชันคอ เอื้อมหยิบจับลูกบอลหรือของเล่น คลาน นั่ง ยืน และเล่นกับพ่อแม่ ในช่วงเวลาที่เด็กไม่ได้นอนหลับ สำหรับวัย 1-5 ปี ควรให้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อย 180 นาทีต่อวัน เน้นทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐาน เช่น การเดิน วิ่ง เขย่ง กระโดด ทรงตัว ปีนป่าย ปั่นจักรยานสามล้อ ปั้นดิน ขีดเขียน ต่อบล็อก เล่นบทบาทสมมติ ทำครัว หรือช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน โดยพ่อแม่ควรสนับสนุนให้เด็กได้เลือกเล่นตามความชอบ แต่ไม่ควรให้เล่นในรูปแบบการฝึกฝน ให้เด็กดื่มน้ำให้เพียงพอ ดูแลความปลอดภัยในขณะเล่น และให้เด็กหยุดกิจกรรมหากมีอาการอ่อนเพลียด้วย
“ทั้งนี้ การส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กทำได้ไม่ยาก สามารถคิดรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับเด็กและครอบครัว ไม่จำเป็นต้องมีหรือซื้อของเล่นราคาแพงให้ อาจให้เล่นทั้งในบ้าน ชุมชน สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ สนามกีฬา หรือพาออกไปท่องเที่ยวได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีคุณภาพภายในครอบครัว อันจะทำให้เด็กเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ภาษา และสังคมต่อไป” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด