วันที่27 ต.ค. 64 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่จุดที่เกิดเหตุการณ์ลักขโมยสายไฟ และสำรวจการปิดรั้วสองข้างทางของรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บริเวณจุดร่วมทางรถไฟ กม.11 ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ) โดยจากสำรวจพบว่า ยังมีประชาชนเข้ามาค้าขายในเขตทางรถไฟ และมีประชาชนเดินข้ามทางรถไฟในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทาง ขร. ได้ประสานการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้วทราบว่า หลังจากวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ขบวนรถไฟโดยสารจะย้ายไปใช้ทางยกระดับด้านบน และจะยกเลิกที่หยุดรถกม. 11 (บริเวณถนนเลียบทางรถไฟชุมชนไทรคู่ ถนนกำแพงเพชร 2 ) พร้อมทั้งแก้ไขปิดทางเข้าเขตทางรถไฟบริเวณดังกล่าวเพิ่มเติมทั้งหมด นอกจากนี้ ที่ผ่านมา รฟท. ได้ดำเนินการติดตั้งรั้วที่ชำรุด/หาย ให้สมบูรณ์แล้ว และ รฟฟท. ได้ดำเนินการจัดชุดลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบการตัดสายไฟตลอดแนวเส้นทางแล้ว โดย ขร. จะจัดทำรายงานการติดตามการป้องกันการเกิดเหตุดังกล่าว สรุปได้ ดังนี้
1. รฟท. ดำเนินการรื้อย้ายบันไดไม้ที่มีคนลักลอบวางไว้ออก รวมทั้งเจรจาให้ผู้บุกรุกในพื้นที่เขตทางออกนอกพื้นที่ดังกล่าว และติดตั้งรั้วกั้นเพิ่มเติมต่อไป
2. รฟฟท. จะยังคงจัดชุดลาดตระเวนเพื่อป้องกันเหตุลักลอบตัดสายไฟอย่างต่อเนื่อง หากจับกุมได้ ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
3. รฟฟท.ดำเนินการตรวจวัดความสั่นสะเทือนและเสียงในเส้นทางรถไฟชานเมืองสายสีแดง ตามรอบประเมินผลติดตามการดำเนินงานตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นประจำทุก 6 เดือน
จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยังโรงเรียนอนุบาลธนินทร ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อทำการตรวจวัดเสียง เนื่องจาก ขร. ได้รับการแจ้งเรื่องร้องเรียนปัญหามลภาวะทางเสียงของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงสถานีดอนเมือง-สถานีหลักหก) โดยเบื้องต้น ขร. ได้ทำการตรวจสอบระยะห่างของโรงเรียนกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงแล้ว พบว่ามีระยะห่างกันประมาณ 50 เมตร และได้ดำเนินการวัดค่าระดับเสียงสูงสุดจากทั้งในขบวนรถ และจากบริเวณโรงเรียน ช่วงเวลาที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน พบว่าค่าเบื้องต้นยังไม่เกินเกณฑ์ตามมาตรฐาน โดยวัดค่าได้ 78.2 เดซิเบลจากจุดที่ที่มีการร้องเรียน ทั้งนี้ ขร. จะจัดทำรายงานไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อประสานมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวดำเนินการแก้ไขและอำนวยความสะดวกกับประชาชนต่อไป