กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวน ระมัดระวังป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ หากมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยร่างกาย ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ พร้อมแนะให้ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวน และหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจทำให้ประชาชนเจ็บป่วยได้ง่าย ประกอบกับช่วงนี้อยู่ในช่วงการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ในปีนี้พบผู้ป่วยสูงกว่าค่ามัธยฐานและค่าพยากรณ์ และพบว่าอัตราป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกภาค
ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1–28 มกราคม 2562 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่จำนวน 16,058 ราย ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยเรียน พบมากสุดในกลุ่มอายุ 7-9 ปี ร้อยละ 12.92 รองลงมาอายุ 10-14 ปี ร้อยละ 12.26 และอายุ 25-34 ปี ร้อยละ 11.95 ตามลำดับ ส่วน 5 จังหวัดที่อัตราป่วยสูงสุด คือ เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร พะเยา สุราษฎร์ธานี และลำพูน ตามลำดับ
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า โรคไข้หวัดใหญ่ติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง (น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ) ของผู้ป่วย ผ่านการไอ จามรดกัน หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไป อาจรับเชื้อทางการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น หลังรับเชื้อมักมีอาการทันทีหรือประมาณ 1-2 วัน จะมีอาการไข้สูง ตัวร้อน หนาว ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก (โดยเฉพาะที่หลัง ต้นแขน ต้นขา) อ่อนเพลีย มีน้ำมูกใสๆ หากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ขอให้หยุดเรียนหรือหยุดงานทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น งดออกกำลังกาย งดดื่มน้ำเย็น รับประทานอาหารอ่อน น้ำเกลือแร่และพักผ่อนมากๆ มีไข้ให้เช็ดตัว หากไข้ไม่ลดให้รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ควรรีบพบแพทย์ทันที โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะสามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน
ประชาชนทุกคนสามารถป้องกันการป่วยและเสียชีวิตได้ โดยยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่ 1.ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย 2.ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได ราวบนรถโดยสาร 3.เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือในสถานที่แออัด มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก และ4.หยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสำคัญ เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่เป็นโรคอ้วน เป็นต้น ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ขอให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็ว ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
******************************************
ข้อมูลจาก: สำนักโรคติดต่อทั่วไป/ สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค