นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้แสดงความขอบคุณและพบปะพูดคุยกับรัสเซล โครว์ นักแสดงชาวนิวซีแลนด์-ออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงระดับโลก เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ เรื่อง Gladiator ในปี ค.ศ.2000 ที่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่อง“Soft Power”ความเป็นไทย โดยรัสเซล โครว์ ที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ “ Beer Run” ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 ได้กล่าวแสดงความชื่นชมและบอกเล่าถึงประทับใจในความเป็นไทยทั้งในเรื่องของเมืองไทยที่มีความงดงามด้วยศิลปะและวัฒนธรรมไทย นิสัยและความมีน้ำใจมิตรไมตรีของคนไทย แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวพักผ่อน ซึ่งรัสเซล โครว์ได้เดินทางไปท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เช่น แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจ.ภูเก็ต บางกะเจ้า จ.สมุทรปราการ พร้อมกล่าวอยากให้เพิ่มป้ายบอกทางภาษาอังกฤษในพื้นที่ต่างๆให้มากขึ้นโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และชื่นชอบอาหารไทย เช่น แกงพะแนง แกงเผ็ด ผัดไทยและชอบข้าวซอยเป็นพิเศษ รวมทั้งชื่นชมนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมให้อาหารไทยเผยแพร่ไปทั่วโลก ขณะเดียวกันรัสเซล โครว์ ได้ชื่นชมกองถ่ายภาพยนตร์ไทย เป็นทีมงานที่มีฝีมือและมีคุณภาพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ได้กล่าวขอบคุณรัสเซล โครว์ที่ถ่ายทอดความประทับใจเกี่ยวกับ“Soft Power”ความเป็นไทย นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่นักแสดงระดับโลกชื่นชมความเป็นไทยทั้งในด้านวัฒนธรรม ศิลปะ แหล่งทางวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาหารไทยและภาพยนตร์ไทย ทำให้แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและอาหารไทยได้รับการเผยแพร่ไปสู่นานาชาติมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ วธ.จะนำข้อคิดเห็นที่ได้รับมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและนโยบายนายกรัฐมนตรีที่มุ่งผลักดันการใช้ “Soft Power”ความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Economy) ของไทยใน 15 สาขา เช่น ภาพยนตร์ ศิลปะการแสดง แฟชั่น อาหารไทยและการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม รวมถึงนโยบายวธ.ในการนำคุณค่าของวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าและบริการ (Creative Culture) ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5 F ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) มวยไทย (Fighting) และการอนุรักษ์และขับเคลื่อนเทศกาล ประเพณีสู่ระดับโลก (Festival) รวมถึงยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ.2560 – 2564) โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทยโดยร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและประเทศอย่างยั่งยืน
////