บอร์ดภาพยนตร์ฯ ปลื้มมาตรการผ่อนปรนการถ่ายทำภาพยนตร์ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล

บอร์ดภาพยนตร์ฯ ปลื้มมาตรการผ่อนปรนการถ่ายทำภาพยนตร์ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล สร้างความมั่นใจกองถ่ายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต่างประเทศ “รัสเซล โครว์” นักแสดงระดับโลกแสดงความชื่นชม Phuket sandbox

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะรองประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการภาพยนตร์ฯ มีนโยบายส่งเสริมการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลและพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่มุ่งผลักดันมาตรการผ่อนปรนการถ่ายทำภาพยนตร์ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 สร้างความเชื่อมั่นให้แก่กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ รวมถึงขับเคลื่อนนโยบายใช้ “Soft Power”ความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Economy) ของไทยใน 15 สาขา เช่น ภาพยนตร์ ศิลปะการแสดง แฟชั่น อาหารไทยและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมทั้งสนับสนุนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox)ของรัฐบาลโดยนำคุณค่าของวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าและบริการ (Creative Culture)ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5 F ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) มวยไทย (Fighting) และการอนุรักษ์และขับเคลื่อนเทศกาล ประเพณีสู่ระดับโลก (Festival) เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและประเทศอย่างยั่งยืน

รองประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กล่าวอีกว่า ล่าสุดเป็นที่น่ายินดีที่รัสเซล โครว์ นักแสดงชาวนิวซีแลนด์-ออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงระดับโลก เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ เรื่อง Gladiator ในปี ค.ศ. 2000 ที่มาถ่ายภาพยนตร์ที่จังหวัดภูเก็ตได้ทวีตผ่านทวิตเตอร์ Russell Crowe เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาแสดงความชื่นชมนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ของรัฐบาลเป็นวิธีการกักตัวที่สุดวิเศษเหมาะกับนักเดินทางมาท่องเที่ยว และชื่นชอบความเป็นมิตรของคนไทย แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงอาหารไทยในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งภูเก็ตมีศักยภาพและสิ่งแวดล้อมงดงาม ทำให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เป็นระยะ

นายอิทธิพล กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลโดยคณะกรรมการฯ วธ. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ร่วมผลักดันมาตรการผ่อนปรนให้กองถ่ายภาพยนตร์ โทรทัศน์ โฆษณาทำงานต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ.2560 – 2564) โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทย ทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศมั่นใจและเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งวธ.ได้รับข้อมูลจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในปี 2564 (มกราคม – ตุลาคม) มีบริษัทภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยรวม 71 เรื่อง ในพื้นที่ 29 จังหวัด สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3,452 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 35 เรื่อง ภูเก็ต 10 เรื่อง สมุทรปราการ 8 เรื่อง ปทุมธานี 6 เรื่อง พังงา 5 เรื่องและลำปาง สุราษฎร์ธานี นครนายก สมุทรสาคร นครราชสีมาและเชียงราย 3 เรื่อง ส่วน 5 อันดับประเทศที่สร้างรายได้สูงสุดในการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ได้แก่ สหรัฐอเมริกากว่า 2,511 ล้านบาท เขตบริหารพิเศษฮ่องกงกว่า 286 ล้านบาท สิงคโปร์กว่า 228 ล้านบาท ฝรั่งเศสกว่า 120 ล้านบาทและจีนกว่า 85 ล้านบาท

นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า วธ.มีโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หลายโครงการ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น ชุมชนคุณธรรมฯในโครงการ“เที่ยวชุมชน ยลวิถี” พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง โบราณสถานบ้านพระยาวิชิตสงคราม วัดไชยธาราราม(วัดฉลอง) พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น แหลมพรหมเทพ และหาดราไวย์ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารทะเลของภูเก็ต รวมทั้งวธ.ได้จัดทำเกม Phuket Cooking Fever เพื่อยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจของวัฒนธรรมอาหารภูเก็ตสู่เมืองอาหารระดับโลก
///