กรมเจรจาฯ โชว์แนวคิด “โคนมยุคใหม่พร้อมก้าวไปกับการค้าเสรี” ในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ปี 2562

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมจัดนิทรรศการ “โคนมยุคใหม่พร้อมก้าวไปกับการค้าเสรี” ในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ปี 2562 ให้ข้อมูลเกษตรกรและผู้ประกอบการโคนมไทย มองเอฟทีเอให้เป็นโอกาสของการพัฒนาคุณภาพและนวัตกรรมของสินค้านมและผลิตภัณฑ์ของไทย เพื่อบุกตลาดต่างประเทศ และแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคการค้าเสรี

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้นำข้าราชการในสังกัดเข้าร่วมจัดนิทรรศการในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2562  ระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2562  ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โดยเน้นแนวคิดเรื่อง “โคนมยุคใหม่พร้อมก้าวไปกับการค้าเสรี” เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมโคนมของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในยุคการค้าเสรี โดยการเชื่อมโยงและเตรียมความพร้อมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในส่วนต้นน้ำ ได้แก่ ผู้เลี้ยงโคนมจำเป็นจะต้องลดต้นทุนการผลิต ยกระดับมาตรฐานและคุณภาพการผลิตน้ำนมดิบ สำหรับกลางน้ำ จะเป็นผู้รับน้ำนมดิบไปผลิตต่อ หรือแปรรูป จะต้องสอดแทรกนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และปลายน้ำ ต้องทำการตลาดให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ

ทั้งนี้ ในปี 2561 ที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมอุตสาหกรรมโคนมไทยตลอดห่วงโซ่การผลิตโดยกรม ปศุสัตว์เน้นการพัฒนาต้นน้ำ โดยกรมฯ ได้เน้นการให้คำแนะนำเกษตรกรและผู้ประกอบการในเรื่องการทำการตลาด และแสวงประโยชน์จากเอฟทีเอ โดยเฉพาะการขยายตลาดไปประเทศคู่เอฟทีเอที่ไม่เก็บภาษีศุลกากรการนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์จากไทยแล้ว เช่น อาเซียน และจีน และกระตุ้นให้เตรียมพร้อมรับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นจากการที่ไทยต้องลดภาษีสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมให้ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เหลือร้อยละ 0 ในปี 2564 และ 2568

“นอกจากนี้ กรมฯ ได้ดำเนินโครงการ “จัดทัพโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศด้วยเอฟทีเอ” คัดเลือกเกษตรกร ผู้ประกอบการนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยที่มีความพร้อมในการทำตลาดต่างประเทศ เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตและการทำตลาดในจีน อาทิ การศึกษากฎระเบียบการนำเข้าของจีนให้เข้าใจ การศึกษาช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเฉพาะปัจจุบันผู้บริโภคจีนนิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์มมีชื่อของจีนกันมากขึ้น การให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพมาตรฐาน พัฒนานวัตกรรม และสร้างความแตกต่างสร้างสรรค์ให้กับสินค้า เช่น การผลิตนมอัดเม็ดรสชาติต่างๆ และพาเกษตรกร ผู้ประกอบการนมและผลิตภัณฑ์นมที่ได้รับการอบรมเดินทางไปสำรวจเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคจีน และพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้นำเข้าของจีน ซึ่งประสบผลสำเร็จด้วยดี  ทำให้มียอดสั่งซื้อและสั่งผลิตของผู้ประกอบการหลายราย โดยในปีนี้ กรมฯ มีแผนจะเน้นการทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไทยต่อไป โดยจะเน้นในเรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม พร้อมนำผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดใหม่โดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ” นางอรมน กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2561 ไทยส่งออกนมและผลิตภัณฑ์เป็นมูลค่า 472.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 16.42 โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ เช่น กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ขณะที่ไทยนำเข้านมและผลิตภัณฑ์เป็นมูลค่า 630.82 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 4.1 โดยมีแหล่งนำเข้าสำคัญ เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้านมผงเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

———————————-

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์