อว. พร้อมจัดกิจกรรมน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ในหลวง ร.9 ระดม 200 หน่วยงานจัดกิจกรรมจิตอาสาทั้งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ปลูกป่า ทำความสะอาดส่งคืนพื้นที่ปลอดโควิดสู่ชุมชน

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2564 นี้ อว. เตรียมจัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน ที่ทรงมีคุณูปการแก่ อว. มากมายล้นพ้น ทั้งด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยชาว อว. กว่า 200 หน่วยงานจะพร้อมใจกันจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” และจัดกิจกรรมจิตอาสา โดยเฉพาะสถาบันอุดมศึกษาที่จะจัดครบทุกสถาบัน เช่น ม.มหาสารคาม จัดกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ม.นเรศวร จัดกิจกรรมจิตอาสาทำอาหารแจกจ่ายให้กับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป จำนวน 999 ชุด มรภ.ลำปาง จัดกิจกรรมจิตอาสาทำความสะอาด วิทยาลัยชุมชนน่าน จัดกิจกรรมจิตอาสาพาเพื่อทำความดี วิทยาลัยชุมชนชัยนาท จัดกิจกรรมจิตอาสาแจกถุงยังชีพ และ ม.กรุงเทพธนบุรี จัดกิจกรรมจิตอาสาส่งคืนพื้นที่ปลอดภัยสู่ชุมชน เป็นต้น ขณะที่ ยังมีอีกหลายแห่งที่จัดกิจกรรมจิตอาสาปลูกป่า จิตอาสาพัฒนา และจิตอาสาจุดบริการฉีดวัคซีน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมออนไลน์ที่อยากเชิญชวนชาวไทยทุกคนร่วมโพสต์ภาพน้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ อว.จัดทำขึ้นในสื่อโซเชียล เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมายาวนาน

“อว. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากอันล้นพ้นจากล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการสร้างความภาคภูมิใจ เกียรติยศ และขวัญกำลังใจในการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา คือ การเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต โดยประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่พระมหากษัตริย์พระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เอง พระองค์ทรงให้เกียรติแก่บัณฑิตอย่างสูงยิ่ง เท่ากับผู้ทำคุณประโยชน์ได้รับเครื่องราชอิสริยภรณ์ชั้นสายสะพาย คือ มีโอกาสได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรอย่างใกล้ชิดที่สุด ทรงพระราชทานแนวคิดอันเป็นหลักยึดทั้งในการทำงานและการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าแก่บุคคลในแวดวงการจัดการอุดมศึกษาได้นำมาใช้จวบจนปัจจุบัน และยังทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์แผนใหม่ โดยนำมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนนำมาใช้พัฒนาประเทศ จนได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” รมว.อว. กล่าว