นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร เลขาธิการ กศน. กล่าวในโอกาสพบปะผู้บริหารกลุ่ม/ศูนย์ส่วนกลาง ณ ห้องประชุมบรรจง ชูสกุลชาติ ชั้น 6 สำนักงาน กศน. เป็นครั้งแรกภายหลังเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ว่า การที่ได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่มประสบการณ์การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เนื่องจากก่อนหน้านี้รับราชการด้านการศึกษาในระบบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการพบกันวันนี้ ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นบุพเพสันนิวาสที่ทำให้ได้มาทำงานร่วมกัน ร่วมแรงร่วมใจในการผลักดันงาน กศน.ให้เดินไปข้างหน้าด้วยกัน ตนเองเป็นคนปัตตานีโดยกำเนิด ที่มีเพียง 2 ขา 2 มือ และ 1 มันสมอง ลำพังตัวคนเดียว จะขับเคลื่อนให้สำเร็จคงไม่ง่าย ถ้าขาดซึ่งความร่วมมือร่วมใจ ของพี่น้อง กศน.ทุกตำแหน่ง ทุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง และในส่วนภูมิภาค โดยตนเองมีความตั้งใจเต็ม 100 ในการที่จะทำงานให้เห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลง แม้จะทำงานท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 แต่เชื่อว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนงาน หากมีกำลังใจและความตั้งใจ ใช้งานมาเป็นตัวตั้งในการขับเคลื่อนการพัฒนา สิ่งสำคัญที่สุดคือ การขับเคลื่อนที่เป็นหนึ่งเดียวกัน สำหรับภาพที่อยากเห็นในการทำงาน กศน.มี 2 เรื่องๆ แรก คือ อยากเห็นบุคลากรทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทำงานอย่างมีความสุข เมื่อมีความสุข ก็จะเกิดความรักในองค์กร ทุ่มเททำงานด้วยความเต็มใจ เรื่องที่สอง อยากเห็นคุณภาพของงาน ที่เกิดขึ้นควบคู่กับความสุขในการทำงาน ทั้ง 2 เรื่องนี้คือจุดมุ่งหมายสูงสุดที่อยากเห็น อยากเห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การทำงานแบบพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน แบบคนในครอบครัวเดียวกัน ดูแลทุกข์สุขซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ลักษณะการทำงานในเชิงผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา ภายใต้สโลแกน “กศน.ก้าวใหม่ ก้าวแห่งคุณภาพ” เพราะ กศน.คือหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบที่กว้างขวาง ท้าทาย มีหน่วยงานครอบคลุมทั่วประเทศ ต้องทำงานกับภาคประชาชน ทำงานภาคสนาม และภาคพื้นที่อย่างหลากหลาย ดังมีผู้กล่าวไว้ว่า “คิดอะไรไม่ออก ให้บอก กศน.” ซึ่งเป็นความท้าทายในการทำงาน ต้องทำงานในเชิงรุกเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
เลขาธิการ กศน. กล่าวต่อไปว่า ในการทำงานผู้บริหารในส่วนกลาง ต้องเป็นหลัก ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง อำนวยความสะดวกให้แก่พื้นที่ จังหวัด และหน่วยงานที่มีส่วนร่วมกับ กศน. ไม่อยากเห็นภาพของส่วนกลางที่เป็นเจ้านายของส่วนภูมิภาค อยากเห็นการทำงานแบบเพื่อนคู่คิดที่อบอุ่น ช่วยแก้ปัญหา แก้ไขในสิ่งที่เดือดร้อน รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่หน่วยงานในสังกัด โดยไม่ผิดกฎ กติกา มารยาท และกฎหมายต่างๆ อยากเห็นภาพการทำงานที่เป็นปึกแผ่น เป็นทีมงานที่มีความรับผิดชอบตามกรอบงานและภาระหน้าที่ให้เห็นถึงผลสำเร็จ ทั้งความถูกต้อง ถูกกฎหมาย และความรวดเร็วในการทำงาน สร้างบรรยากาศแห่งความสุขในการทำงานให้แก่บุคลากร ถ้อยทีถ้อยอาศัยเป็นครอบครัว
กศน. ส่งเสริมความรักความสามัคคีของคนในองค์กร ซึ่งจะทำให้งานที่ได้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ส่วนกลางจะต้องเป็นพลังให้ส่วนภูมิภาคให้ได้ แม้จะเผชิญกับวิกฤตโควิด และปัญหาอุทกภัยต่างๆ เราจะดูแล ช่วยเหลือ และให้กำลังใจพื้นที่ได้อย่างไรบ้าง เป็นสิ่งที่ต้องคิดร่วมกัน ขอให้เห็นประโยชน์ส่วนรวมขององค์กรเป็นหลัก ตนเองยึดหลักธรรมาภิบาลในการทำงานมาโดยตลอด วันนี้จึงขอปวารณาตัวให้ชาว กศน.ทุกคนได้รับรู้ว่า ตนมีความพร้อมที่จะมาร่วมกับชาว กศน.ขับเคลื่อนนโยบายและงานของ กศน.ให้ประสบความสำเร็จ ให้ กศน.อยู่ในหัวใจของประชาชนให้ได้ ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า กศน.มีความสำคัญกับการสร้างคุณค่า การสร้างคุณภาพคนให้แก่ประเทศชาติ ตามบทบาท ภารกิจ สุดท้ายสิ่งที่อยากฝากไว้คือ หมดอะไรก็หมดได้ แต่อย่าหมดกำลังใจ ตนเองจะขอเป็นปุ๋ย ที่สร้างความเจริญงอกงาม ไม่เป็นยาฆ่าแมลงที่ไปที่ไหนก็มีแต่ความเดือดร้อน แห้งแล้ง เสียหาย และยินดีรับฟังความคิดเห็นที่จะทำให้องค์กรมีความก้าวหน้าต่อไป นายสุรศักดิ์ กล่าวที่สุด