กระทรวงสาธารณสุข เข้มข้นมาตรการเฝ้าระวังดูแลสุขภาพประชาชนในสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่สีแดงและสีส้ม เน้นกลุ่มเสี่ยงที่ทำงานกลางแจ้ง ผู้ที่โรคประจำตัว เด็ก ผู้สูงอายุ
วันที่ (23 มกราคม 2562) ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี แถลงข่าวการเฝ้าระวัง ดูแลสุขภาพประชาชนในสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5
ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนในสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 และได้กำหนด 4 มาตรการเพื่อจัดการลดปริมาณฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิด การลดฝุ่นละอองในบรรยากาศให้น้อยลง การป้องกันส่วนบุคคลและการรักษาพยาบาล และการคาดการณ์และแจ้งเตือนให้ประชาชนรู้ล่วงหน้าทั้งความรุนแรงและจุดพื้นที่เสี่ยง สำหรับกระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังดูแลสุขภาพประชาชนมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง แนะนำวิธีการป้องกันตนเอง จัดทีมแพทย์ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนในการปฏิบัติตนและการป้องกันตนเองรวมทั้งแจกหน้ากาก โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร แม่ค้าริมถนน คนงานก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีค่าเฉลี่ยประจำวันสูงเกิน 90 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (สีแดง) ต้องเน้นให้ป้องกันตนเองให้มากขึ้น โดยสวมหน้ากากที่เหมาะสมโดยใส่ให้ถูกวิธีแนบกับสนิทกับใบหน้า เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจให้อาบน้ำให้สะอาด ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่เด็กและผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคาร ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ สังเกตอาการ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ช่วยเหลือให้พร้อม ในการติดตามสถานการณ์ประจำวันประชาชนสามารถใช้แอพพลิเคชั่น Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษและ เว็บไซต์กรมอนามัย www.anamai.moph.go.th ในหัวข้อภัยสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ในการเฝ้าระวังโรคได้มอบให้กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยใน 3 โรค ได้แก่ โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง หลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน สำหรับมาตรการทางกฎหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
ด้านนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 กระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับกระทรวง (EOC) ประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กรุงเทพมหานคร และกรมควบคุมมลพิษอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ สื่อสารแจ้งเตือนประชาชน พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนผ่านทุกช่องทางสื่อ ทั้งสื่อหลักและสื่อโซเชียล จัดทำแนวทางการดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยงและจัดทีมปฏิบัติการลงพื้นที่
ให้ความรู้สร้างความตระหนักในกลุ่มเสี่ยงเช่น โรงเรียน สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สถานบริการสาธารณสุข รวมทั้งมอบหมายให้กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดทีมออกพื้นที่ให้ความรู้ประชาชนในการปฏิบัติตน แจกหน้ากากอนามัย เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลจัดคลินิกเฉพาะโรคให้คำปรึกษาสำหรับประชาชนที่สงสัยว่าตนเองมีอาการที่อาจเกิดจากฝุ่นขนาดเล็ก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422