(17 มกราคม 2562, กรุงเทพฯ) นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้เปิดเผยถึงแนวทางในการผลักดันให้ผู้ประกอบการ SME ได้รับโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบตลาด และสนับสนุนการขยายฐานทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจของผู้ประกอบการ SME ซึ่งในปีนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (หรือ สสว.) ได้ร่วมมือกับ สถาบันอาหาร และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาช่องทางการตลาด สำหรับผู้ประกอบการ SME โดยมุ่งเน้นสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์สปา ผลิตภัณฑ์ของใช้ ของตกแต่ง ของขวัญและของที่ระลึก ในการพัฒนาศักยภาพด้านการตลาด และสร้างรายได้เพิ่ม
โดย สสว. สถาบันอาหาร และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จะร่วมกันดำเนินการจัดอบรมสัมมนาความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ และรับสมัครผู้ประกอบการ ตลอดจนจัดกิจกรรมขยายช่องทางการตลาดภายในและต่างประเทศ ซึ่ง ในปี 2562 นี้ จะคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ รวมทั้งสิ้น 8 งาน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนสิงหาคม ได้แก่ งาน Ambiente Frankfurt ณ ประเทศเยอรมนี, งาน Thai fair 2018 ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย, งาน Malaysia International Halal Showcase ณ ประเทศมาเลเซีย, งาน HKTDC Hong Kong Gifts and Premium Fair 2019 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง, งาน Ambiente India ณ กรุงนิวเดลลี ประเทศอินเดีย, งาน Thai SME Festival Japan ณ ประเทศญี่ปุ่น (เมืองนางาซากิ และเมืองฟุกุอิ), งาน Food Taipei 2019 ณ กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน), และงาน HKTDC Food EXPO 2019 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง
จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา(ปีงบประมาณ 2561) สสว.ได้นำผู้ประกอบการไปร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติและทดสอบตลาดในต่างประเทศ โดยเน้นสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์สปา และสินค้าของขวัญของชำร่วย ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพสูงของ SME ไทย มีผู้ประกอบการสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 118 กิจการ เกิดการเจรจาธุรกิจถึง 1,400 คู่ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 1,500 ล้านบาท
โครงการพัฒนาช่องทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ SME เป็นการดำเนินโครงการตามแผนส่งเสริม SME ฉบับที่ 4 (ปี 2560-2564) หรือ SME 4.0 เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดในต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน โดยเป็นโครงการที่เน้นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพพร้อมที่จะพัฒนาเป็นผู้ส่งออก สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้กลไกระบบการช่วยเหลือเงินสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ให้ดำเนินการอย่างมีระบบ เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อผู้ประกอบการ SME และเศรษฐกิจของประเทศ สร้างองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการค้าและการตลาดในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการ SME ได้กำหนดกลยุทธ์ต่างๆ สำหรับตลาดเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนให้ผู้ประกอบการ SME ได้สร้างพันธมิตรและขยายความสัมพันธ์กับเครือข่ายทางการค้าทั้งในตลาดเดิมและตลาดใหม่ที่มีศักยภาพให้มีความเข้มแข็งอีกด้วย
ในปีนี้ สสว. มุ่งหวังที่จะทำให้เกิดมูลค่าการซื้อขายและยอดการเจรจาธุรกิจ ตลอดจนมูลค่าการสั่งซื้อจากการร่วมออกงานต่างๆ ตลอดทั้งโครงการ ไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท และเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจอีกไม่น้อยกว่า 2,400 คู่ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME ได้รับความรู้ด้านการตลาดต่างประเทศอีกไม่น้อยกว่า 2,100 ราย นับว่าเป็นการผลักดันให้ผู้ประกอบการ SME ได้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในเวทีการค้าระดับสากลอย่างแท้จริง เป็นการต่อยอดการพัฒนาผู้ประกอบการ SME ไทย อย่างยั่งยืน
——————————–