นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ให้สำคัญกับการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างจริงจัง โดยเฉพาะมะพร้าว ที่เกษตรกรกำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยกรมการค้าภายในได้กำหนดมาตรการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ผู้ปลูกมะพร้าวที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ โดยได้จัดทำโครงการรับซื้อเนื้อมะพร้าวแห้ง ปี 2562 เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกร/กลุ่มเกษตรกร นำมะพร้าวผลมาแปรรูปเป็นเนื้อมะพร้าวแห้ง จำหน่ายให้แก่โรงงานแปรรูป โรงงานน้ำมันมะพร้าว ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายในในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้อนุมัติเงินเร่งด่วนจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 33.48 ล้านบาท เพื่อนำร่องดำเนินการรับซื้อเนื้อมะพร้าวแห้ง 5,000 ตัน ในพื้นที่แหล่งผลิตมะพร้าวสำคัญ 4 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งจังหวัดจะได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินการตามสัดส่วนการผลิตมะพร้าว คือ ประจวบคีรีขันธ์ 13.4 ล้านบาท ชุมพร 10.7 ล้านบาท จ.สุราษฎร์ธานี 5.4 ล้านบาท และ นครศรีธรรมราช 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ ได้ให้จังหวัดกำหนดจุดรับซื้อ ให้เกษตรกร / กลุ่มเกษตรกร นำเนื้อมะพร้าวแห้งมาจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการ และโรงงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยเกษตรกรจะขายเนื้อมะพร้าวแห้งที่ความชื้นไม่เกิน 6% ได้ในราคาเป้าหมายนำกิโลกรัมละ 15 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ผู้รับซื้อจ่ายให้ 10 บาท รัฐจ่ายเพิ่มให้ 5 บาท และให้ค่าบริหารจัดการคุณภาพและค่ารวบรวมอีก 1.50 บาท
สำหรับไข่ไก่ กรมการค้าภายในได้ดำเนินมาตรการเพื่อดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากระบบและเพิ่มการบริโภคภายในประเทศเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เลี้ยงไก่ไข่โดยเร่งด่วน โดยใช้มาตรการดึงผลผลิตออกจากระบบ ซึ่งได้ร่วมกับ 3 สมาคม (สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ และสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้) ร่วมกันผลักดันส่งออกไข่ไก่จำนวน 200 ตู้ (ประมาณ 60 ล้านฟอง) โดยมอบผู้ส่งออกที่มีศักยภาพดำเนินการรับภาระค่าใช้จ่ายในการส่งออกเอง จำนวน 100 ตู้ (ประมาณ 30 ล้านฟอง) และอีก 100 ตู้ (ประมาณ 30 ล้านฟอง) ซึ่งกรมฯ สนับสนุนค่าบริหารจัดการส่งออกตู้ละ 150,000 บาท รวมวงเงิน 15 ล้านบาท ระยะเวลาส่งออกตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม – 15 มีนาคม 2562
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้กรมการค้าภายในได้ดำเนินมาตรการเพิ่มการบริโภคในประเทศ โดยเชื่อมโยงผู้ประกอบการ/เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่นำผลผลิตมาจำหน่ายผ่านงาน “มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค” ที่จัดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 ต่อเนื่องถึงปี 2562 ซึ่งในปี 2562 มีแผนการจัดงานมหกรรมธงฟ้าฯ (ม.ค. – มี.ค.62) ในพื้นที่ 16 จังหวัด ซึ่งสามารถระบายผลผลิตไข่ไก่ผ่านช่องทางดังกล่าวได้ประมาณ 3 ล้านฟอง และจำหน่ายไข่ไก่ผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ กว่า 70,000 แห่ง เพื่อระบายผลผลิตส่วนเกินในระบบและลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคด้วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งสามารถระบายผลผลิตไข่ไก่ผ่านช่องทางดังกล่าวได้ประมาณ 1.5 ล้านฟอง
———————————————————————