วธ.สรรหาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวธ.ประจำปี 2564 ทั้งส่วนกลาง-ภูมิภาค 522 รางวัล เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติมอบโล่รางวัล“วัฒนคุณาธร”แก่บุคคล คณะบุคคลและองค์กรร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนงานศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวง 3 ต.ค.2564
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอดมาเป็นแนวทางดำเนินงานในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมของชาติ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งสภาวัฒนธรรมทุกระดับ เครือข่ายทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม หน่วยงานรัฐ เอกชน ชุมชนและภาคประชาชนเพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทยและประเทศชาติ ดังนั้น วธ.จึงได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและมอบรางวัล “วัฒนคุณาธร” ให้แก่ภาคีเครือข่ายภาคประชาชนทั้งเด็ก เยาวชน บุคคล นิติบุคคลหรือคณะบุคคล ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่มีกิจกรรมหรือผลงานดีเด่นประจักษ์ถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทต่อการสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมในทุกมิติของวธ. ก่อให้เกิดคุณค่าและประโยชน์ต่อสาธารณชนอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า การคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวธ.และมอบรางวัล “วัฒนคุณาธร” วธ.ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้วธ.อยู่ระหว่างดำเนินการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวธ. แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. ประเภทเด็กหรือเยาวชน
2. ประเภทบุคคล
3.ประเภทนิติบุคคล หรือคณะบุคคล
ซึ่งปีนี้มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รวมทั้งหมด 522 รางวัล แบ่งเป็นส่วนกลาง หน่วยงานในสังกัดวธ. 11 หน่วยงาน จำนวน 66 รางวัล และส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด จำนวน 456 รางวัล
ทั้งนี้ ผู้ได้รับการคัดเลือกจะได้รับโล่รางวัล“วัฒนคุณาธร” เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงวัฒนธรรม 3 ตุลาคม 2564 ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 19 เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและความภาคภูมิใจให้แก่บุคคลและองค์กรภาคีเครือข่ายที่ได้ร่วมเป็นพลังสำคัญในการอนุรักษ์สืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นและประเทศชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน