สมุนไพรน่ารู้ อภัยภูเบศร : กระชาย ใช้อย่างไรในสถานการณ์โควิด โดยสถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร

การใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม

กระชาย เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ขับลม บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นท้องช่วยย่อย และเป็นยาบำรุงกำลัง ภูมิปัญญาพื้นบ้านมีการบันทึกใช้แก้อาการจมูกไม่ได้กลิ่น จนนำมาสู่การวิจัยเพื่อใช้ศึกษาฤทธิ์และการใช้ประโยชน์ในสถานการณ์โควิด

การวิจัยในปัจจุบัน

การศึกษาในหลอดทดลอง  เป็นการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าได้ผลดีในหลอดทดลอง โดยลดการติดเชื้อในเซลล์หลังได้รับเชื้อไปแล้ว และป้องกันเชื้อเข้าเซลล์ (แต่ฤทธิ์การป้องกันน้อยกว่าการลดการติดเชื้อหลังรับเชื้อแล้ว 5 เท่า)

การใช้ในสถานการณ์จริง  มีการนำไปใช้ในผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด 19 ที่ไม่มีอาการ พบว่ามีฤทธิ์กำจัดเชื้อภายใน 8 วันเช่นเดียวกับฟ้าทะลายโจร แต่เร็วกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ซึ่งใช้เวลา 12 วัน  แต่อย่างไรก็ตามการใช้ดังกล่าวเป็นการใช้สารสกัดซึ่งยังไม่มีการจำหน่ายในท้องตลาด

ข้อแนะนำในการนำมาใช้ในภาคประชาชน

กระชายเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ไม่เหมาะหากมีอาการไข้สูง แต่จากประสบการณ์ในช่วงปิดแคมป์คนงานมีรายงานถึงการใช้กระชายแคปซูลเสริมการรักษาผู้ป่วยเสี่ยงสูง ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด 19 เมื่อมีจมูกไม่ได้กลิ่น คัดจมูก หายใจไม่ออก โดยใช้แคปซูลกระชาย 500 มิลลิกรัม  กินครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 5  วัน พบว่าอาการหายเป็นปกติ

ดังนั้นผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างรอเตียง ที่มีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น คัดจมูก หายใจไม่ออก อาจเตรียมตำรับกระชายด้วยวิธีการใดการหนึ่ง ดังนี้

  1. กระชายสด เหง้าหรือราก ครั้งละ 25 กรัม วันละ 3 มื้อ หลังอาหาร
  2. กระชายแห้ง บดผง ทั้งเหง้าและราก ใช้ครั้งละ 2 กรัม วันละ 3 เวลา หลังอาหาร
  3. น้ำกระชาย ใช้กระชายครั้งละ 25 กรัม ล้างสะอาด ปั่นละเอียดผสมน้ำสะอาด 300 มิลลิลิตร น้ำมะนาว 20 มล น้ำผึ้ง 20 มล ดื่มแบบไม่ต้องแยกกาก วันละ 3 ครั้ง

หมายเหตุ สารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด 19 คือ แพนดูราทิน (Pandurtin) และ พินอสทรอบิน (Pinostrobin) ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้ไม่ละลายน้ำดังนั้นการจะได้รับสารสำคัญที่ดีควรกินกระชายทั้งน้ำและเนื้อจะได้รับสารสำคัญที่ครบถ้วนที่สุด

สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่มีอาการติดเชื้อ และต้องการใช้กระชาย แนะนำรับประทานในรูปแบบอาหารที่ปรุงปกติ เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรรับประทานกระชายต่อเนื่องหรือใช้ขนาดสูงต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นยารสร้อน อาจทำให้เกิดอาการร้อนใน หรือความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้นได้ และอาจทำให้ใจสั่น หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานในขนาดสูง
  • กระชายมีโพแทสเซียมสูง ควรระวังการใช้ในขนาดสูงในผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ หรือผู้ที่ต้องควบคุมโพแทสเซียม
  • ควรระวังการใช้ในผู้ที่มีความผิดปกติของตับและไต ผู้กินยาละลายลิ่มเลือด ยาวาร์ฟาริน

ปรึกษาหมอ คลินิกออนไลน์ https://lin.ee/47PRVjiFz