นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึง การดำเนินการประมวลผลระบบกรณีคืนเงินสมทบให้กับผู้ประกันตนที่ทำงานกับนายจ้างหลายราย และส่งเงินสมทบเกิน ว่า สำนักงานประกันสังคมได้มีการประมวลผลระบบดังกล่าว ปีละ 2 ครั้ง และส่งหนังสือแจ้งในช่วงเดือนมิถุนายน และธันวาคม เพื่อคืนเงินสมทบส่วนที่เกินให้กับผู้ประกันตน โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้จัดทำหนังสือส่งถึงผู้ประกันตน เพื่อแจ้งให้ทราบจำนวนเงินสมทบที่ชำระไว้เกินซึ่งมีถึง 60,409 ราย ดังนั้นขอให้ผู้ประกันตนที่ต้องการรับเงินส่วนเกินคืน กรอกข้อความและลงนามในคำขอรับเงินคืนพร้อมแนบหลักฐาน รายละเอียดเงินสมทบส่วนที่เกิน สำเนาสมุดบัญชี เงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ (ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคาร ไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) รับรองสำเนาถูกต้อง ส่งทางไปรษณีย์ถึงสำนักงานประกันสังคมภายในเวลาที่ระบุไว้ในคำขอรับเงินคืนตามที่อยู่ซึ่งแจ้งในหนังสือ และให้วงเล็บมุมซองว่า “ขอคืนเงินสมทบ”
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า หากผู้ประกันตนไม่ได้ยื่นคำขอรับเงินสมทบ ส่วนที่เกินคืนภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่นำส่งเงินสมทบ เงินจำนวนดังกล่าวจะตกเป็นของกองทุนประกันสังคม ดังนั้นจึงขอให้ผู้ประกันตนตรวจสอบและรักษาสิทธิของตนเองให้ถูกต้อง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลการส่งเงินสมทบของตนเองได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ หรือจังหวัดที่นายจ้างนำส่งเงินสมทบ ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักเงินสมทบ สำนักงานประกันสังคม หมายเลขโทรศัพท์ 0 2956 2264 – 7 หรือที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่ท่านสะดวก และทางโทรศัพท์ สายด่วน 1506 ซึ่งให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
——————————————————
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน