พช.ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เดินหน้าขับเคลื่อน โครงการ “ คนนนท์ร่วมใจ ปลูกผักบ้านฉัน แบ่งปันบ้านเธอ” หนุนครัวเรือนปลูกพืชสมุนไพรไทย ต้านโควิด-19 พร้อมปลูกฝังวัฒนธรรมสร้างความมั่นคงทางอาหาร มุ่งชุมชนพึ่งตนเองได้อย่างยั่นยืน
วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 นางสาววรรณี วุฒิฤทธากุล นายอำเภอไทรน้อย มอบหมายให้ นางสาวบุตรตรา ใจพันธ์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ รักษาราชการแทน พัฒนาการอำเภอไทรน้อย ลงพื้นที่ขับเคลื่อนงานภายใต้โครงการ “ คนนนท์ร่วมใจ ปลูกผักบ้านฉันแบ่งปันบ้านเธอ” โดยมี เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน เข้าร่วมฯ ณ พื้นที่แปลงเกษตรพอเพียงของ ร้อยตรีวัลลภ เวชวิบูลย์ ขนาด 2 ไร่ ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
นางสาวบุตรตรา ใจพันธ์ รักษาราชการแทน พัฒนาการอำเภอไทรน้อย เปิดเผยว่า ตามที่กรมการพัฒนาชุมชนได้มีหนังสือประสานขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเป็นผู้นำให้พี่น้องข้าราชการทุกกระทรวงทบวงกรม ผู้นำจิตอาสา ภาคีเครือข่ายต่างๆในทุกตำบลหมู่บ้าน ได้ช่วยกันสร้างความมั่นคงด้านอาหารด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว และพืชสมุนไพรซึ่งเป็นทั้งอาหารและยารักษาโรคต่างๆหลายโรครวมทั้งโควิด-19 อาทิ กระชาย ขิง ฟ้าทะลายโจร หากทุกครัวเรือนมีการปลูกพืชสมุนไพรไทย จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่พี่น้องประชาชน สามารถพึ่งตนเองได้ ในท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 นี้ ได้อย่างปลอดภัย และต่อเนื่องจนเป็นวัฒนธรรมการปลูกพืชผักสวนครัวสร้างความมั่นคงด้านอาหารได้
ในการนี้ สำนักพัฒนาชุมชนจังหวัดนนทบุรี โดยสำนักพัฒนาชุมชนอำเภอไทรน้อย ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยรณรงค์ให้มีการปลูกผักสวนครัวทั่วพื้นที่อำเภอ เน้นการพึ่งพาตนเอง เพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) และพร้อมเดินหน้าที่จะต่อยอดให้เกิดความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยจะขับเคลื่อนการดำเนินงาน สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” รอบ 2 (ต่อเนื่อง) โดยการรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนปลูกผักสวนครัว ภายใต้โครงการ “ คนนนท์ร่วมใจ ปลูกผักบ้านฉันแบ่งปันบ้านเธอ” อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การปลูกพืชสมุนไพรไทย นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันโรคโควิด-19 และบรรเทาอาการเบื้องต้นของไข้หวัด หรือป้องกันการติดเชื้อได้ เช่น กระชาย พบว่า สารสกัดของกระชายขาว สามารถแสดงฤทธิ์ในการต้านไวรัสทั้งในระยะก่อนและหลังการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับ ฟ้าทะลายโจร โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้การรับรองแล้วว่ามีสารแอนโดกราโฟไลด์ ที่สามารถรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ดังนั้นสำนักพัฒนาชุมชนอำเภอไทรน้อย จึงเดินหน้าลงพื้นที่ส่งเสริมสนับสนุน การปลูกพืชสมุนไพรไทยให้กับครัวเรือนในพื้นที่ โดยได้มอบเมล็ดพันธุ์ผักตราศรแดง จำนวน 20 ซอง และมอบต้นฟ้าทะลายโจรและกระชาย เพื่อนำไปปลูกและต่อยอดขยายผลพืชสมุนไพรไทยภายในชุมชนและเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านอาหาร โดยในพื้นที่เกษตรพอเพียงดังกล่าว ได้ดำเนินการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่ขนาดกว่า 2 ไร่ มีการขุดบ่อขนาด กว้าง 6 เมตร ยาว 25เมตร ลึก 2.5 เมตร เพื่อสำหรับเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด พร้อมทั้งปลูกพืชสวนครัวต่างๆในพื้นที่ พร้อมทั้งเลี้ยงไส้เดือนเพื่อทำผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพจากมูลไส้เดือน เพื่อทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน นอกจากนี้ ท่านพัฒนาการอำเภอไทรน้อย ยังได้ให้คำแนะนำในการบริหารจัดการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์พื้นที่ตามแนวทางของการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา พช. เพื่อยกระดับให้เป็นพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ให้กับชุมชนในอนาคตอีกด้วย
ทางด้าน นายกิตติศักดิ์ พูลนุช เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดียิ่งที่ทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนนทบุรี โดยท่านรักใจ กาญจนะวีระ พัฒนาการจังหวัดนนทบุรี ได้ให้ความสำคัญ ในการส่งเสริม สนับสนุน การสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมทั้งปลูกฝังวัฒนธรรมการปลูกผัก ปลูกพืชสมุนไพรไทย เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้กับชุมชนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และขอขอบคุณท่านนายอำเภอไทรน้อย ที่ให้การสนับสนุนกับสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอในพื้นที่ในการขับเคลื่อนกิจกรรมดังกล่าว พร้อมเป็นกำลังใจให้กับครัวเรือนที่ได้รับการสนับสนุนจากทาง สพอ.ไทรน้อย โดยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์หรือผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการนำพืชสมุนไพรไทยไปต่อยอดขยายผลจนสามารถเป็นผลิตภัณฑ์สร้างอาชีพ เสริมรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ สำนักพัฒนาชุมชนจังหวัดนนทบุรี และสำนักพัฒนาชุมชนอำเภอทุกอำเภอ ขอเชิญชวน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำจิตอาสา ภาคีเครือข่ายต่างๆ ในทุกตำบลหมู่บ้านได้ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านอาหารด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวและปลูกพืชสมุนไพรไทย ภายใต้โครงการ “ คนนนท์ร่วมใจ ปลูกผักบ้านฉันแบ่งปันบ้านเธอ” เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือน พร้อมทั้งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่พี่น้องประชาชนท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด-19 และยังสามารถลดรายจ่ายในการดำรงชีวิตของประชาชน เกิดการเกื้อกูลของคนในชุมชน/หมู่บ้าน และพึ่งตนเองได้อย่างยั่นยืน