วันที่ 26 ก.ค. 64 เวลา 18.30 น. นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า วันนี้ ตน พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว และนางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ บ้านมิตรไมตรีห้วยขวาง และศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ร่วมบูรณาการลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ บริเวณหัวลำโพง ถนนราชดำเนิน และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อสำรวจและให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนเร่ร่อน ไร้บ้าน ที่ใช้ชีวิตในที่สาธารณะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง โดยให้ความช่วยเหลือภายใต้พระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557 ด้วยการแนะนำบริการด้านสวัสดิการต่างๆ ได้แก่ ด้านที่อยู่อาศัยในบ้านมิตรไมตรีและบ้านปันสุข บริการด้านอาหารและสุขอนามัย และการให้คำแนะนำความช่วยเหลือด้านสิทธิสวัสดิการต่างๆ
นางพัชรี กล่าวต่อไปว่า การลงพื้นที่วันนี้พบคนเร่ร่อน ไร้บ้าน ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ ตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 456 ราย ประกอบด้วย
1) อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 96 ราย
2) ถนนราชดำเนิน 171 ราย
3) หัวลำโพง 78 ราย
4) บริเวณอื่นๆ ได้แก่ ปทุมวัน 42 ราย โรงพยาบาลกลาง 26 ราย เยาวราช 27 ราย สวนรมณีนาถ 9 ราย และวัดบวรฯ 7 ราย
ทั้งนี้ ได้มีการเชิญชวนให้มาเข้ารับการคุ้มครองในหน่วยงานของกระทรวง พม. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ บ้านปันสุข(ธนบุรี) และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพฯ แต่ไม่มีผู้ประสงค์เข้ารับการคุ้มครอง
นางพัชรี กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ทำให้ได้รับทราบถึงสาเหตุของการไม่เข้ามารับการคุ้มครองในหน่วยงานของกระทรวง พม. ซึ่งเราพร้อมให้การคุ้มครองและได้จัดบริการที่พัก และอาหาร 3 มื้อฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากเห็นถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันทุกคน ทั้งนี้ กระทรวง พม. มีหน้าที่ให้การคุ้มครองและช่วยเหลือดูแล แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่จับกุมได้ โดยได้จัดเตรียมศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไว้จำนวนหลายแห่ง สำหรับคนเร่ร่อน ไร้บ้าน ที่ขาดที่พึ่งและไม่มีอาหารรับประทาน สามารถเข้ามาใช้บริการได้ตลอดทุกเมื่อ แต่กลุ่มบุคคลนี้มีลักษณะอุปนิสัยชอบความอิสระ จึงเป็นการยากที่จะทำให้เข้ามาสู่ระบบการคุ้มครอง ซึ่งการทำงานด้านนี้ กระทรวง พม. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรหลายหน่วยงาน อาทิ มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย ได้เข้ามามีส่วนร่วมช่วยดูแลตรงจุดนี้ รวมทั้งมูลนิธิกระจกเงาและมูลนิธิอิสระชน
นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง พม. ยังได้ช่วยเหลือพาไปตรวจหาเชื้อโควิค-19 และจัดหาโควต้าวัคซีนเพื่อฉีดให้กับกลุ่มบุคคลนี้บางส่วนแล้ว แต่ยังมีบางคนติดเชื้อและเสียชีวิต จึงเป็นที่มาของการเปิด “บ้านปันสุข” ตั้งอยู่ย่านวงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี กทม. โดยเปิดเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับเป็นที่พึ่งของกลุ่มคนเร่ร่อน ไร้บ้าน ด้วยบริการฟรี ทั้งอาหารครบทั้ง 3 มื้อ ที่พักชั่วคราว ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และซักผ้า นอกจากนี้ ได้มีการประสานจัดหาโรงแรม 1 แห่ง จำนวน 57 ห้อง ไว้สำหรับรองรับกลุ่มบุคคลนี้ หากมีความประสงค์เข้าอยู่สามารถเข้าอยู่ได้ทันที ภายในวันที่ 31 ก.ค. 64 เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น แต่ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และขณะนี้ กระทรวง พม. ได้จัดหาโควต้าวัคซีนมาเพิ่มเติมได้อีกจำนวนหนึ่งสำหรับฉีดให้กับกลุ่มคนเร่ร่อน ไร้บ้าน ตามความสมัครใจ อีกทั้งหากมีความประสงค์กลับภูมิลำเนา กระทรวง พม. พร้อมประสานกระทรวงกลาโหม เพื่อจัดบริการรถรับ-ส่ง กลับภูมิลำเนาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งเรามีหน่วยงานในพื้นที่ทุกจังหวัดรองรับความช่วยเหลือดูแลอย่างต่อเนื่อง