จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แจงกรณีมีสื่อเสนอข่าวผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์คลิปรีวิวการอาบน้ำในหลุมบนถนนคันกั้นน้ำสาย ๓๐๑๑ วัดบ้านพาด ตรวจสอบพบถนนที่ชำรุดระยะทาง ๒๐ เมตร แขวงทางหลวงชนบทได้ซ่อมแซมแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว พร้อมเร่งจัดทำเวทีประชาคมแก้ปัญหากำหนดน้ำหนักรถบรรทุกผ่านเส้นทางนี้
กรณีมีการเผยแพร่ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์และสถานีวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เสนอข่าวเฟซบุ๊กของ นายปวรปรัญซ์ สุขสุสาสน์ ที่ได้โพสต์คลิปรีวิว การอาบน้ำในหลุมบนถนนคันกั้นน้ำสาย ๓๐๑๑ วัดบ้านพาด อำเภอบางไทร เชื่อมอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้งบประมาณแผ่นดิน จำนวน ๑๐๓ ล้าน หน่วยงานผู้รับผิดชอบกรมชลประทานบางบาล และกรมทางหลวงชนบท ซึ่งประเด็นปัญหาที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากถนนตามเนื้อข่าวดังกล่าวมีสภาพชำรุดเป็นหลุมบ่อจำนวนมากส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับความเดือดร้อน นั้น
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้ นายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยอำเภอบางไทร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว ดังนี้
๑. ถนนสายดังกล่าว คือ ถนนหมายเลข ๓๐๑๑ วัดบ้านพาด อำเภอบางไทร เชื่อมกับอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นถนนคันคลองส่งน้ำ ๑ ข.ส.๘ ระยะทาง ๘.๑๐๐ กิโลเมตร อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล กรมชลประทาน
๒. ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๒ กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล ได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อก่อสร้างปรับปรุงคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ กม.๐+๐๐๐ – กม.๘+๑๐๐ (คันคลองส่งน้ำ ๑ ข.ส.๘) ระยะทาง ๘.๑๐๐ กิโลเมตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา งบประมาณ ๑๐๓.๔๘๕ ล้านบาท ซึ่งดำเนินงานแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ โดยมีการกำหนดค้ำประกันผลงาน ๒ ปี ซึ่งครบกำหนดในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๔
๓. สำหรับถนนที่มีการร้องเรียน อยู่ในช่วง กม.๗+๕๐๐ – กม.๗+๖๐๐ ซึ่งจากการตรวจสอบถนนที่เกิดการชำรุดเสียหาย เนื่องจากคันคลองชลประทานเกิดจากการขุดลอกตะกอนดินเหนียวขึ้นมาทับถมเป็นฐานล่างของถนนคันคลองชลประทาน เพื่อให้ราษฎรได้ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงผลผลิตทางการเกษตร ไม่ได้ใช้เป็นเส้นทางหลักในการสัญจร แต่เนื่องจากมีการใช้เส้นทางดังกล่าวในปริมาณที่เพิ่มขึ้น จึงกลายเป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้ในการสัญจร จึงทำให้ฐานล่างของคันคลองที่เป็นดินเหนียวแบกรับน้ำหนักไม่ไหว เป็นเหตุให้ถนนชำรุดเสียหายดังกล่าว
๔. เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ น. ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (นายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และหารือประเด็นปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไข โดยมีผลสรุป ดังนี้
๔.๑ ถนนที่ชำรุดและเป็นปัญหาตามข่าว ระยะทางประมาณ ๒๐ เมตร แขวงทางหลวงชนบทพระนครศรีอยุธยา ได้ดำเนินการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทางในการสัญจรแล้ว
๔.๒ มอบหมายให้อำเภอบางไทรร่วมกับสถานีตำรวจภูธรบางไทร และผู้นำชุมชนกำชับและกวดขันผู้ประกอบการที่ใช้รถบรรทุกผ่านเส้นทางดังกล่าว ให้ควบคุมน้ำหนักให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด และร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่จัดทำเวทีประชาคม เพื่อหาข้อสรุปในการกำหนดน้ำหนักบรรทุกที่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้
๔.๓ สำหรับปัญหาถนนที่ชำรุดในจุดอื่นๆ ได้มีการเร่งสำรวจและดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบ และดำเนินการแก้ไขความชำรุดเสียหายของถนนในเส้นทางดังกล่าวด้วยแล้ว