จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดงานรัฐพิธีถวายราชสักการะ “วันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดงานรัฐพิธีถวายราชสักการะ “วันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต และพิธีมอบเครื่องหมาย “รักษาดินแดนยิ่งชีพ”

เช้าวันที่ 11 ก.ค. 64 เวลา 08.00 น. ที่ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะ “วันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” พร้อมด้วย นางนวลจันทร์ แย้มศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการพลเรือน ศาล ทหาร ตำรวจ และข้าราชการ เข้าร่วมพิธี โดยประธานประกอบพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายราชสักการะวางพวงมาลา จุดธูปเทียนที่เครื่องทองน้อย กล่าวคำถวายราชสดุดี เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และประกอบพิธีทางศาสนา จนเสร็จพิธี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ประจำปี 2564 ต่อจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องหมาย “รักษาดินแดนยิ่งชีพ”ให้แก่ นายปริญ นิทัศน์เอก นายอำเภอบางซ้าย และ นายสุระบัณฑิต กันยานะ นายอำเภอบ้านแพรก เพื่อเชิดชูเกียรติ ภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ วันที่ 11 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้กำหนดจัดงานรัฐพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ทรงมีต่อแผ่นดินไทย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 27 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ทรงมีหลายพระนาม คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชรญ์ เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา กับพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เหตุที่มีพระนามว่า “นารายณ์” มีที่มาน่าสนใจคือ มีพระญาติวงศ์เหลือบเห็นเป็น 4 กร พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญตลอดรัชกาลของพระองค์ ทั้งด้านการทหาร วรรณคดี และการทูต

ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา