คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้มีการทบทวนรายชื่อโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และให้ความเห็นชอบหลักการ จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล 2.แนวทางการพิจารณาการประกาศเขตติดโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการการดำเนินงานตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
วันที่ 22 ธันวาคม 2561 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบให้มีการทบทวนรายชื่อโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง พ.ศ.2559 จำนวน 57 โรค โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2559 เป็นต้นมา โดยพิจารณาด้านความสำคัญทางด้านสาธารณสุข และแหล่งข้อมูล รวมถึงการลดภาระของประเทศ จึงเห็นควรให้มีการทบทวนรายชื่อโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตามประกาศฯ ดังกล่าว เพื่อให้เป็นปัจจุบันและทันต่อสถานการณ์ของโรค
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบหลักการ จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด และ 2.แนวทางการพิจารณาการประกาศเขตติดโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola Virus Disease – EVD) โดยที่ประชุมได้รับทราบถึงสถานการณ์ของโรค และแนวทางการพิจารณาการประกาศเขตติดโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola Virus Disease – EVD) ตามที่สำนักระบาดวิทยาเสนอ และมอบหมายกรมควบคุมโรค ดำเนินการ
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนดำเนินการตามมาตรการในบทบาทและหน้าที่ที่รับผิดชอบ ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคที่วางไว้อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง และขอให้มีการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อให้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ประชาชนชาวไทยปลอดภัยจากโรคและภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโรคติดต่อทั่วไป โทร. 02-590-3170 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
**************************************************
ข้อมูลจาก:สำนักโรคติดต่อทั่วไป / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค