14 มิถุนายน 2564 – ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและคณะผู้บริหาร อว. ร่วมตรวจเยี่ยมหน่วยบริการฉีดวัคซีน COVID-19 ของ อว. ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยได้เยี่ยมชมหน่วยบริการ รวมทั้งพบปะให้กำลังใจบุคลากรผู้ให้บริการและผู้เข้ารับบริการวัคซีน ซึ่งได้รับความสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลบางปะกอก มีความพร้อมในการฉีดวัคซีน 1,000 โดสต่อวัน พร้อมทั้งมอบของสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยบริการฉีดวัคซีนให้แก่มหาวิทยาลัย โดยมี ผศ.ดร.ประเสริฐ คันธมานนท์ รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายบริหาร และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีให้การต้อนรับ
ปลัด อว. กล่าวว่า กระทรวง อว. ให้บริการฉีดวัคซีนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลใน 3 รูปแบบหลัก คือ การให้บริการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ของ อว. ซึ่งมีกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ และใน กทม. มีประมาณ 6 จุด รูปแบบที่สองคือการร่วมมือกับภาคเอกชนโดยเฉพาะสภาหอการค้าไทยที่ให้บริการฉีดวัคซีนให้กับ กทม. ซึ่งมีประมาณ 25 จุด โดยมีความเกี่ยวข้องกับ อว. ครึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น ทั้งการใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยเป็นจุดฉีด และมหาวิทยาลัยเป็นผู้ให้บริการในการฉีด และรูปแบบที่สาม คือ หน่วยฉีดวัคซีนกลาง ซึ่งในขณะนี้หน่วยฉีดทั้งหมด 11 จุด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีเป็น 1 ใน 11 จุดที่ดำเนินการอยู่ โดยในระยะแรกเป็นการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรและนักศึกษา เพื่อให้มีความมั่นใจว่าการจัดการเรียนการสอนจะสามารถดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัย และในอนาคตเราก็จะให้บริการวัคซีนแก่พี่น้องประชาชนในบริเวณรอบข้างของมหาวิทยาลัย จุดฉีดถาวรส่วนกลางนี้มีความตั้งใจที่จะดำเนินการจนถึงช่วงสิ้นปีเพื่อให้แน่ใจว่าประชากรของประเทศไทยที่ควรได้รับวัคซีนได้รับเป็นที่เรียบร้อย
“นอกจากที่เราจะให้บริการวัคซีนแล้ว การที่เรานำเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาใช้ช่วงวิกฤตนี้เป็นเรื่องสำคัญ โดย มจธ. เองก็มีเทคโนโลยีต่างๆที่ถูกนำมาใช้งานในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เช่น หุ่นยนต์ ระบบการขนส่ง ระบบวิศวกรรมต่างๆ และเรายังคงจะช่วยต่อไป รวมไปถึงกลไกในการจัดการวัคซีนที่โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เป็นกระบวนการจัดการในแบบของเราซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก และสุดท้ายคือ เราได้เห็นกำลังของบุคลากร อาสาสมัครที่แต่ละท่านให้บริการด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส ได้เห็นกำลังใจของบุคลากร เห็นพลังของทั้งกระทรวงในสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งโรงพยาบาลสนามจนถึงการให้บริการจุดฉีดวัคซีนในทุกๆ ส่วน เราอยากเห็นพลังแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในนามของกระทรวง อว. ขอขอบคุณมหาวิทยาลัย และที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษ คือ พันธมิตรต่างๆ รวมไปถึงอาสาสมัครทุกท่านที่เข้ามาช่วยให้ ประเทศไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้” ปลัด อว. กล่าวในตอนท้าย
……………………………………