กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และตรัง รวม 34 อำเภอ 195 ตำบล 1,308 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 151,241 ครัวเรือน 431,237 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วรวมถึงสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 15 – 20 ธันวาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง และตรัง รวม 38 อำเภอ 204 ตำบล 1,3858 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 152,413 ครัวเรือน 434,753 คน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และตรัง รวม 34 อำเภอ 195 ตำบล 1,308 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 151,241 ครัวเรือน 431,237 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ดังนี้
นครศรีธรรมราช ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 21 อำเภอ ได้แก่ อำเภอ เมืองนครศรีธรรมราช อำเภอชะอวด อำเภอพิปูน อำเภอช้างกลาง อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอพระพรหม อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอลานสกา อำเภอพรหมคีรี อำเภอ จุฬาภรณ์ อำเภอขนอม อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอฉวาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอหัวไทร อำเภอบางขัน และอำเภอนาบอน รวม 141 ตำบล 1,034 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 131,843 ครัวเรือน 374,938 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าฉาง อำเภอไชยา อำเภอเกาะสมุย อำเภอ กาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก อำเภอท่าชนะ อำเภอคีรีรัฐนิยม และอำเภอวิภาวดี รวม 32 ตำบล 162 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,150 ครัวเรือน 22,190 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ตรัง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอรัษฎา อำเภอห้วยยอด อำเภอนาโยง อำเภอเมืองตรัง และอำเภอย่านตาขาว รวม 22 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,248 ครัวเรือน 34,109 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ ได้กำชับจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป