ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระบาด ผู้คนต่างมีความวิตก และต้องการตัวช่วยในการดูแลสุขภาพ และป้องกันการติดเชื้อ แนวทางที่ง่ายที่สุด และเป็นเบื้องต้นของการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ภูมิคุ้มกันดีคือ การเลือกกินอาหารอย่างเหมาะสม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยองค์รวม ที่ควรทำในสถานการณ์เช่นนี้
ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ในต่างประเทศมีการนำความรู้การแพทย์ทางเลือกมาศึกษาวิจัยและ พบว่า สารอาหาร หรือ องค์ประกอบบางชนิดในพืชอาจมีประโยชน์ในแง่ของการเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบในร่างกาย และมีการศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันไวรัสหลายชนิดที่ก่อโรคในทางเดินหายใจ ซึ่งในประเทศไทยเองนั้นมีความหลากหลายของพืชผักและสมุนไพรที่ควรนำมาใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ โดยสารอาหารและองค์ประกอบในอาหารที่ควรบริโภคเพิ่มเติมไปกับอาหารปกติ
กลุ่มอาหารที่ควรบริโภค
- สารเควอซิทิน อาหารที่มีส่วนประกอบของเควอซิตินในปริมาณสูง ได้แก่ หอมแดง หอมใหญ่ แอปเปิ้ล องุ่น พลูคาว หรือผักคาวตอง มะรุม ใบหม่อน
- วิตามินซี อาหารที่มีวิตามินซีในปริมาณสูง ได้แก่ มะขามป้อม ฝรั่ง ลิ้นจี่ มะละกอ ลูกพลับ ส้มโอ กีวี ส้ม สัปปะรด สตอเบอร์รี่ กีวี
- เครื่องเทศ เช่น ขิง พริกไทย กระชาย โหระพา กะเพรา ตะไคร้ หอม กระเทียม เพราะมีงานศึกษาวิจัยกว้างขวางในแง่ของการเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบของร่างกาย ต้านไวรัสในกลุ่มที่ก่อโรคในทางเดินหายใจ
- แร่ธาตุสังกะสี สังกะสีพบมากในอาหารทะเล เช่น หอยนางรม หอยแมลงภู่ ปู กุ้งหรือกุ้งมังกร ปลาทะเลน้ำลึกอย่างปลาซาร์ดีนที่สามารถบริโภคในรูปแบบปลากระป๋อง และปลาแซลมอน เป็นต้น รวมถึงตับ เนื้อสัตว์ และผักบางชนิดโดยเฉพาะเห็ด ผักคะน้า หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาด และมันฝรั่ง
นอกจากนี้ ควรบริโภค อาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้งอาหารหลักอย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ การวิจัยในปัจจุบันยังพบว่าองค์ประกอบบางชนิดในเครื่องเทศ และสมุนไพรอาจมีผลเพิ่มภูมิคุ้มกันทั้งชนิดจำเพาะและไม่จำเพาะได้อีกด้วย รวมถึง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ภูมิต้านทานอ่อนแอลง โดยลดการทานอาหารหวาน ลดดื่มแอลกอฮอล์ เลิกสูบบุหรี่ และควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน และควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เนื่องจาก ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 70% ดังนั้นหากร่างกายขาดน้ำ จะมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ดี
นอกจากการศึกษาสารในอาหารแล้ว ยังมีความพยายามในการศึกษาผลของวิตามินดีต่อการติดเชื้อโคโรนา 2019 แต่การศึกษายังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่อาจเป็นไปได้ว่า คนบางกลุ่มมีโอกาสที่จะพร่องวิตามินดีและติดโควิดมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ คนที่เป็นโรคอ้วน และคนที่มีผิวคล้ำ ดังนั้นในประเทศเราที่มีแสงแดดอย่างพอเพียง สมควรที่เราจะได้สัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น แต่ไม่ใช่แสงแดดในช่วงกลางวันเพราะอาจทำให้เกิดการเป็นไข้ ผิวหนังไหม้และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งที่ผิวหนัง
ติดตามอ่านสาระน่ารู้ได้เพิ่มเติม และดาวน์โหลดคู่มือฟรีได้ที่เฟซบุ๊คสถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร