สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้ดำเนินการกับทรัพย์สินในรายคดี บริษัท พีบี.สมาร์ทฟาร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำผิดกฎหมายโดยมีการโฆษณาผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ ในการชักชวนประชาชนทั่วไปร่วมลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท ซึ่งดำเนินกิจการเกี่ยวกับการผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานแม่เหล็ก โดยให้ประชาชนที่สนใจร่วมลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร โดยมีแผนการลงทุนตั้งแต่ 1,000 ถึง 1,000,000 บาท และอ้างว่าให้ผลตอบแทนสูง ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อ เข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก มีเงินหมุนเวียนกว่า 3,000,000,000 บาท
ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าบริษัทฯ ดังกล่าว ไม่มีการประกอบธุรกิจจริง ปกปิดวิธีการดำเนินธุรกิจมีการวางแผนหลอกลวงให้ประชาชนร่วมลงทุน และนำเงินจากผู้ลงทุนหมุนเวียนจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้ร่วมลงทุนรายอื่นหมุนเวียนกันไป อันเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 3(3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งในคราวประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 108 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 422 ล้านบาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จากนั้นสำนักงาน ปปง. ได้เปิดรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในรายคดีดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2564 ถึงวันที่ 10 เมษายน 2564
พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ในการประชุม ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบให้สำนักงาน ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สิน จำนวน 108 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดทั้งสิ้น 471,019,563.73 บาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดมูลฐานตามมาตรา 3(3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และมีผู้เสียหายจากการกระทำความผิดดังกล่าว จึงเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดีดังกล่าวไปคืน หรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหายแทนการสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 49 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อย่างเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและเพื่อความสงบสุข ความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถโทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน 1710