เช้าวันที่ 13 พ.ค. 64 ที่โรงพยาบาลลำปาง นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายอำเภอเมืองลำปาง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ บุคลากรทางการแพทย์ อสม. และประชาชน จำนวน 546 คน ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน Sinovac เข็มที่ 2 โดยได้มีการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน ซึ่งภายหลังจากรับฉีดวัคซีนแล้ว มีการพักดูอาการ 30 นาที ตามมาตรการสาธารณสุขที่กำหนดไว้ โดยไม่พบอาการข้างเคียงหรืออาการผิดปกติแต่อย่างใด
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า สำหรับการฉีดในวันนี้ไม่พบผลข้างเคียงแต่อย่างใด แม้แต่อาการเจ็บปวดเล็กน้อยก็ไม่พบ ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความปลอดภัยสูง จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวลำปาง เข้ารับการฉีดวัคซีนเยอะๆเพื่อความปลอดภัยต่อโรคโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดลำปางในอนาคต
ด้าน นายแพทย์นพรัตน์ วัชรขจรกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้กล่าวว่า วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ฉีดเข้าตัวเรา ขอให้พี่น้องชาวลำปางมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนตัวไหนยี่ห้อไหนก็ดีที่สุด ฉีดวัคซีนเพื่อตัวเราเอง เพื่อครอบครัว เพื่อชุมชนที่เราอยู่ เพื่อจังหวัดที่เราอยู่ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโควิด-19 ปัญหาโรคนี้จะได้หมดไปจากพื้นที่จังหวัดลำปาง ขอยืนยันอีกครั้งว่าการฉีดวัคซีนทุกยี่ห้อไม่มีปัญหา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดครบเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งระบบในการติดตามและเฝ้าระวังมีความพร้อมมาก
สำหรับยอดจองวัคซีน Astrazeneca ในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ขณะนี้มียอดจองวัคซีนแล้วกว่า 230,000 ราย ถือว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ให้ประชาชนมั่นใจในระบบการฉีดวัคซีนของลำปางมีความรวดเร็ว สะดวก และปลอดภัย
นายแพทย์จรัล ปันกองงาม รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลลำปาง กล่าวถึงการจองวัคซีนของชาวลำปางในขณะนี้ ที่ลงทะเบียนไว้ ทางจังหวัดลำปางและสถานพยาบาลจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลลำปาง ศูนย์สาธารณสุขชุมชนอีก 2 แห่งของโรงพยาบาลลำปาง โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี และโรงพยาบาลมะเร็งลำปาง จะดำเนินการฉีดให้ประชากรกลุ่มเสี่ยง ในระยะเวลาประมาณ 50 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน เป็นต้นไป ให้ประชาชนได้ที่นัดไว้แล้วและมีวันนัดอยู่ในมือ ให้มารับวัคซีนในวันและเวลาดังกล่าว วันนึงสามารถฉีดได้ประมาณ 1,800 ราย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 50 วัน
สำหรับประชาชนที่ Walk-in เข้ามาขอให้รอลงทะเบียนได้ ก็สามารถให้บริการได้ในเฟสต่อไป โดยรัฐบาลจะจัดสรรวัคซีนมาให้เป็นระยะอยู่แล้ว เนื่องจากขณะนี้ต้องจัดลำดับตามความสำคัญให้กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคก่อน โดยขอยืนยันว่าประชาชนทุกคนจะสามารถเข้ารับวัคซีนอย่างครบถ้วนแน่นอน แต่ขอให้รอการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาลในระยะถัดไปก่อน