เมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงารายงานว่า แม้สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด19 ยังไม่มีสี่แววว่าจะลดลง ทั้งในระดับประเทศ และระดับพื้นที่ต่างจังหวัด ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่ถึงแม้โรคร้ายนี้มันน่ากลัวแค่ไหนก็ตาม ความสำคัญในเรื่องปากเรื่องท้องก็สำคัญมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ยิ่งคนจนๆที่หาเช้ากินค่ำ ครอบครัวกำลังรอข้าวปลาอาหาร ทุกมื้อของลูกๆหลานๆ สามีภรรยา ทุกชีวิตล้วนมีค่า จึงจำเป็นต้องออกทำงานหาเงินแม้ว่าเชื้อโรคร้ายจะแพร่ระบาดอย่างรุนแรงแล้วก็ตาม หลายครอบครัวถึงกับบอกว่ากลัวอดมากกว่า แต่ไม่กลัวตายหากป้องกันโรคอย่างดีแล้วอย่างเช่นที่ในตลาดย่านยาว อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบมีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งการออกซื้อหาอาหาร เครื่องมือ อุปกรณ์ประกอบอาชีพ การติดต่อสื่อสาร ไปรษณีย์ รับส่งพัสดุ ร้านค้าโชห่วย รวมทั้งสถาบันการเงิน ธนาคารมีผู้คนไปติดต่อทำธุรกรรมกันจำนวนมาก โดยทุกขั้นตอนตามมาตรการป้องกันโควิด19 เข้มข้น เข้มงวด
ซึ่งผู้ที่ออกมาจากบ้านส่วนใหญ่ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าจำเป็นต้องออกจากบ้านทั้งที่ไม่อยากออกมาทำธุระต่างๆ แต่ทุกคนก็จะระวังตนเองกันอย่างดี ป้องกันการติดเชื้อดังกล่าว ล่าสุดจังหวัดพังงามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 รายจากอำเภอเมืองพังงา ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของจังหวัดพังงาอยู่ที่จำนวน 45 รายแล้ว ถึงแม้ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวันและการแพร่ติดเชื้อจะง่ายขึ้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งผลจากการติดเชื้อที่สาเหตุมาจากการคลัสเตอร์ ขยายวงออกไปเรื่อยๆพร้อมการมีมาตรการที่เข้มงวดกวดขัน
มาตรการให้สวมหน้ากากอนามัย 100 % การเว้นระยะห่าง ต้องหมั่นล้างมือ ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ และหากไม่จำเป็นควรอยู่แต่ในบ้านพัก รวมทั้งมาตรการทางสังคม การดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ และเงื่อนไข ข้อห้ามกับธุรกิจต่างๆ รวมทั้งธุรกิจประเภทสีเทา อบายมุขเนื่องจากเชื้อโควิด19 นี้มันน่ากลัวจริงๆ คนไทยทุกคนต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งตั้งความหวังว่าหลังพายุร้าย ฝนตกหนัก เมฆทมึนผ่านเลยไป เมื่อนั้นอากาศบริสุทธิ์ฟ้าสดใส สีท้องผ่องอำไพต้องเกิดขึ้นกับประเทศไทยอย่างแน่นอน.
……………………..
นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป /โกอู๋@ผู้สื่อข่าวอาวุโสจังหวัดพังงา