30 เมษายน 2564 นายทวีป บุตรโพธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า จังหวัดอำนาจเจริญ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่ผ้าไทยอันเป็นศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และให้ชาวโลกได้ชื่นชม อีกทั้งเพื่อเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าท้องถิ่นให้เกิดกระแสความนิยมการแต่งกายผ้าไทย แก่ประชาชนทั่วไป และยังสนับสนุน ส่งเสริม การสร้างงาน สร้างอาชีพ และเสริมสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่น
นอกจากนี้จังหวัดอำนาจเจริญได้น้อมพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย ในการที่จะสืบสาน แนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงศึกษาเรื่องผ้า คิดค้น รวมทั้งพระราชทานลายผ้า “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” ผ่านกรมการพัฒนาชุมชน สู่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน นับเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ชาวอำนาจเจริญทุกอำเภอล้วนมีวัฒนธรรมการทอผ้า ทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าลายขิดที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองที่มีชื่อเสียงมากได้แก่การทอผ้าไหมบ้านเปือย อำเภอลืออำนาจ ผ้าไหมบ้านสร้อย-บ้านจานลาน อำเภอพนา การทอผ้าลายขิดบ้านคำพระ อำเภอหัวตะพาน
โดยเฉพาะผ้าไหมบ้านเปือย ได้รับยกย่องจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถว่าเป็นผ้าไหมที่งดงามล้ำเลอค่าและมีคุณภาพดีกว่าถิ่นใดๆ พระองค์ทรงกำหนดราคาขายไว้ให้อย่างเป็นธรรมโดยไม่ให้เอาเปรียบผู้ผลิตด้วยจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รณรงค์และส่งเสริมให้ภาคีทั้งภาครัฐ เอกชน กลุ่มองค์กร เครือข่าย ส่วนราชการ ร่วมสวมใส่ผ้าไทย เช่น เครือข่าย OTOP, Biz club ให้สวมใส่ผ้าไทยในการเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าในงานต่างๆ การจัดประชุมอบรมต่างๆ ตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ได้แก่ วันอังคาร สวมใส่ผ้าขิดลายตะขอผสมเอื้อสีม่วง ซี่งเป็นลายผ้าประจำจังหวัดอำนาจเจริญ และวันศุกร์แต่งกายด้วยผ้าขาวม้าพื้นถิ่นจังหวัดอำนาจเจริญ หรือแต่งกายด้วยผ้าไทยตามโอกาสที่เหมาะสม จังหวัดอำนาจเจริญมี“ผ้าขิดลายตะขอผสมเอื้อ” มีความหมายว่า การเอื้อเฟื้อ มีน้ำใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นผ้าประจำจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นการนำลายตะขอและลายเอื้อ มาผสมกันโดยวางลายทั้งสองสลับแถวกันไป การขิดลายโดยใช้ไม้ขิดทั้งหมด 12 ไม้ (เขา) แต่ละไม้มี 2 ด้าน เวลาทอจนครบลายจะรวมเป็นขิด 24 ไม้ (เขา) เส้นยืน (สีพื้น) เป็นสีครีม ใช้เส้นเดี่ยว เส้นพุ่ง (เป็นลายขิด) ใช้สีม่วง ทอด้วยฝ้ายสีม่วง 2 เส้น ยกเขาก่อนแล้วจึงใช้กระสวยพุ่งเส้นฝ้าย ไป-กลับ 2 เที่ยว หรือ 4 เส้น จึงเปลี่ยนเขาไปตามลำดับจนครบลาย ทำให้มีความงดงดงานสำหรับผู้สวมใส่
ด้าน นางสาววริศรา โสภาค พัฒนาการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า นับเนื่องจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระกรุณาประทานพระอนุญาตแบบลายมัดหมี่ ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ผ่านกรมการพัฒนาชุมชน โดยท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่และสื่อความหมายถึงการส่งมอบความรักความสุขให้แก่ชาวไทย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ และประทานอนุญาตให้กลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค สามารถนำไปใช้ทอผ้า ผลิตผ้าได้ในกระบวนวิถีที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น
สมดังพระดำริของพระองค์ ที่ว่า “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือ ความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปะ หัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชน ส่งเสริมกระตุ้น ผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากลเป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัยและทุกโอกาส ทำให้จังหวัดอำนาจเจริญ มีรายได้จากการจำหน่ายผ้าตามโครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ถึงปัจจุบันมียอดจำหน่ายกว่า 10 ล้านบาท
นายทวีป บุตรโพธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงของการแพร่ระบาดนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขณะนี้ จังหวัดอำนาจเจริญเข้าใจถึงความยากลำบากของพี่น้องประชาชนจังหวัดอำนาจเจริญเอง และชาวไทยทั่วประเทศ อย่างไรก็ดีการกักตัวอยู่ที่บ้านพี่น้องประชาชนบางส่วนก็ยังสามารถดำเนินกิจกรรมการทอผ้าได้ จึงขอถือโอกาสนี้เชิญชวนทุกท่านส่งเสริมสนับสนุนผ้าไทยด้วยการสวมใส่ผ้าไทย ถ้าท่านสนใจจะเลือกซื้อผ้าประจำถิ่น หรือสินค้า OTOP ของจังหวัดอำนาจเจริญ สามารถเลือกซื้อได้ผ่านเว็บไซต์สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด https://amnatcharoen.cdd.go.th/, เพจ OTOPอำนาจเจริญ หรือโทรสั่งซื้อได้ที่ 045-523-008