วันที่ 7 ธันวาคม 2561 วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี : พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าในการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 9/2561 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกลุ่มจังหวัดอุดรธานี เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ) โดยในส่วนของการติดตามด้านอาชีวศึกษา ในช่วงเช้าจะเป็นการ ตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงาน และการขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดสกลนคร โดยวันนี้เป็นการสรุป และทบทวนการทำงานของศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา และกำชับในเรื่องของข้อมูลความต้องการกำลังคน (Demand) และความสามารถในการผลิตกำลังคน (Supply) เพื่อนำไปสู่การจัดทำข้อมูลด้านความต้องการกำลังคน Big Data ในการขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และโมเดล ประเทศไทย 4.0 สำหรับศูนย์ผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NEEC) มีทั้งหมด 5 ศูนย์ ซึ่งกำหนดให้จังหวัดร้อยเอ็ด วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด เป็นศูนย์หลักในการรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลระดับภาค โดยมีศูนย์จังหวัดเครือข่าย ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี จังหวัดสกลนคร วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร จังหวัดนครราชสีมา วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา และจังหวัดอุบลราชธานี วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่าในช่วงบ่าย ได้ติดตามความพร้อมและความก้าวหน้าของการดำเนินงานด้านความร่วมมือในการยกระดับการจัดการอาชีวศึกษา และวิชาชีพของ ประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แห่งราชอาณาจักรไทย และ Pearson Education Limited สหราชอาณาจักร หรือ BTEC ซึ่งมีความก้าวหน้า ว่าสอศ. ได้เตรียมแผนระยะที่ 1 ระหว่างเดือนธันวาคม 2561-เมษายน 2562 ในเรื่องของการรับรองสถานศึกษา นำร่องเพื่อเป็น BTEC Centre approval โดยสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา 3 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น สาขาการท่องเที่ยวและโรงแรม วิทยาลัยเทคโนโลยี ไออาร์พีซี สาขา Smart Electronic และวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา สาขา การประกอบอาหาร และเป็นสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 3 แห่ง ระยะที่ 2 ระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2562 เป็นเรื่องของการประเมินคัดเลือกสถานศึกษา 50 แห่ง เพื่อเป็น BTEC Centre approval รวมถึงการคัดเลือกครู และการฝึกอบรมครูตามหลักสูตรและมาตรฐานของ BTEC โดยสถานศึกษาจะเปิดการจัดการเรียนการสอนได้ในปีการศึกษา 2562 นี้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่าด้านความก้าวหน้าของโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) ของ สอศ. เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับทุกคน เพื่อช่วยพัฒนาชุมชนและผู้ปกครองให้มีรายได้ โดยนักเรียน นักศึกษาจะเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการบริหารจัดการในโรงเรียน ซึ่งนำร่องระหว่างวิทยาลัยการอาชีพคำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลอีสาน จำกัด และวิทยาลัยการอาชีพหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ บริษัทน้ำตาลมิตรผล จำกัด ได้ดำเนินการพัฒนาใน 5 ด้าน ได้แก่ การจัดการเรียนการสอน การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การจัดกิจกรรมเสริมทักษะอาชีพ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และการพัฒนาภูมิทัศน์ และอาคารสถานที่ โดยมีผลความพึงพอใจในระดับดีมากต่อชุมชนในพื้นที่ จึงทำให้มีสถานศึกษาสนใจเป็นจำนวนมากที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยจะมีการขยายผลเพิ่มเติมสถานศึกษาที่จะเป็นโรงเรียนร่วมพัฒนาในระยะที่ 2 อีกจำนวน 6 แห่ง ดังนี้ 1.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชลบุรี ร่วมกับ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น 2. วิทยาลัยเทคนิคตรัง 3. วิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี และ4. วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี ร่วมกับ กลุ่มเซ็นทรัล 5.วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา และ 6. วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ร่วมกับ บริษัท ซี.พี. ออลล์ จำกัด (มหาชน)
////////////////////////////////////////////
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สอศ.