ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน คปภ. ได้จัดโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน โดยลงพื้นที่ในชุมชนแต่ละภาคเพื่อรับฟังสภาพปัญหาด้านประกันภัยและให้บริการด้านประกันภัยในพื้นที่ต่างๆ นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 ตนและคณะผู้บริหาร สำนักงาน คปภ. ตลอดจนเจ้าหน้าที่คปภ.ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งผู้ไกล่เกลี่ยของ สำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการร่วมกับกองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย ตลอดจนสมาคมต่างๆของภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ได้ลงพื้นที่ชุมชนบ้านปางขอน ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ในรูปแบบ Mobile Insurance Unit หรือศูนย์บริการประชาชนด้านการประกันภัยเคลื่อนที่แบบครบวงจร เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทหน้าที่ของ สำนักงาน คปภ. และให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับชุมชน การให้ความช่วยเหลือและรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยผ่าน Mobile Complaint Unit หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยเคลื่อนที่ รวมทั้งศึกษาวิถีชีวิตของชาวชุมชนและรับฟังสภาพปัญหาด้านการประกันภัย ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมฐานเรียนรู้ต่างๆภายในชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ห้าและเป็นครั้งสุดท้ายในการลงพื้นที่ตาม“โครงการ คปภ. เพื่อชุมชนปี 2” ประจำปี 2561
ในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคของสำนักงาน คปภ. ได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาข้อมูลด้านการทำประกันภัยทั้งที่บ้านผาฮี้ ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สายและบ้านปางขอน ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งพบว่า ในพื้นที่ชุมชนทั้งสองแห่งมีการปลูกพืชประเภท “กาแฟ” เป็นจำนวนมากและมีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่ส่งผลให้ผลผลิตกาแฟได้รับความเสียหาย จึงเห็นควรให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำ “กรมธรรม์ประกันภัยกาแฟ”เพื่อใช้เป็นโมเดลต้นแบบในการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงให้กับเกษตรกรที่ปลูกกาแฟต่อไป นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ร่วมกับสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน สมาคมนายหน้าประกันภัยไทยและบริษัทประกันภัย ฯลฯ โดยนำผ้าห่ม เสื้อกันหนาว อุปกรณ์การเรียนการสอน และหมวกนิรภัยจำนวน 100 ใบ นำไปแจกให้กับประชาชนและนักเรียน ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 4 รอบ 2 เมษายน 2546 ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวตั้งอยู่ที่บ้านนาโต่ หมู่ที่ 20 ตำบลแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจ ตลอดจนแสดงความห่วงใยจากภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้กับคณะครู ตชด. นักเรียน และผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนแห่งนี้ด้วย
สำหรับการลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เหมาะสมและสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้กับชาวชุมชนบ้านปางขอนแบบครบวงจร รวมทั้ง สำนักงาน คปภ. ยังได้จัดกิจกรรมปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์เพื่อรณรงค์การทำประกันภัย พ.ร.บ. 100% โดยมีการแจกหมวกนิรภัยให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมขบวนกว่า 200 ใบ นอกจากนี้ยังได้จัดเวทีเสวนาให้ความรู้ด้านประกันภัยภายใต้หัวข้อ “ประกันภัยน่ารู้สู่ชุมชน” เพื่อถอดบทเรียนสภาพปัญหาด้านประกันภัยที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เช่น กรณีทีมฟุตบอลหมูป่า จำนวน 13 คน ติดอยู่ในถ้ำหลวง ซึ่งระบบประกันภัยได้เข้าไปมีส่วนเยียวยาในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น การเยียวยาค่ารักษาพยาบาลทีมหมูป่าหลังออกจากถ้ำหลวงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล การเยียวยากรณีจ่าแซมที่เสียชีวิตภายในถ้ำหลวงจากการเข้าไปช่วยเหลือทีมหมูป่า ตลอดจนการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ถูกน้ำท่วมจากการระบายน้ำออกจากถ้ำหลวง รวมทั้งกรณีไฟไหม้หอพักซึ่งมีนักเรียนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งระบบประกันภัยก็เข้าไปเยียวยาในส่วนค่าสินไหมทดแทน การเสวนานี้มีคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก สำนักงาน คปภ. อาทิ นายชัยยุทธ มังศรี ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ นางคนึงนิจ สุจิตจร ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวางแผนและพัฒนากฎหมาย ตลอดจนนายกี่เดช อนันต์ศิริประภา ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมเสวนา โดยมีนายชนะพล มหาวงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค เป็นผู้ดำเนินรายการ นอกจากนี้สมาคมนายหน้าประกันภัยไทยยังให้บริการทำประกันภัยพ.ร.บ.รถจักรยานยนต์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสให้ความอนุเคราะห์โดยนำกรมธรรม์ประกันภัย 100 มาแจกให้ชาวชุมชนอีกด้วย
การลงพื้นที่ที่บ้านปางขอนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย โดยมี นายอินทฤทธิ์ วุยยะกู่ ผู้นำชุมชนบ้านปางขอน พาเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของผู้คนภายในชุมชน รวมทั้งเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ อาทิ ฐานเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน ตลอดจนฐานเรียนรู้กระบวนการผลิตกาแฟปางขอน โดยมีการถ่ายทำรายการเพื่อนำไปออกอากาศทางโทรทัศน์ให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับชมทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง 5) อีกด้วย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ชุมชนบ้านปางขอนในครั้งนี้ นอกจากได้ทราบสภาพปัญหาด้านประกันภัยของชุมชนแห่งนี้แล้ว ยังได้รับข้อมูลจาก สำนักงาน คปภ. เชียงราย ว่า ในพื้นที่ชุมชนบ้านปางขอนมีรถยนต์ที่ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกัน พ.ร.บ.) ถึง 100% ส่วนรถจักรยานยนต์มีอัตราการทำประกันภัยภาคบังคับ (ประกัน พ.ร.บ.) เพียง 37.88% นอกจากนี้ยังพบว่า ชาวชุมชนบ้านปางขอน ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำประกันภัยไม่ว่าจะเป็นการประกันภาคบังคับตามที่กฎหมายกำหนด หรือการประกันภัยภาคสมัครใจ รวมถึงการประกันภัยอันเกิดจากภัยธรรมชาติ ดังนั้นจึงให้ความรู้ด้านประกันภัยและรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงภัย เช่น อัคคีภัยที่อยู่อาศัย (ไมโครอินชัวรันส์) ด้วยเบี้ยประกันภัยเพียง 400 บาทต่อปี การทำประกันรถจักรยานยนต์ (ประกัน พ.ร.บ.) กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่อุ่นใจด้วยประกันภัย 7 บาท (ไมโครอินชัวรันส์) และกรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่อุ่นใจด้วยประกันภัย 10 บาทพลัส (ไมโครอินชัวรันส์) ซึ่งเป็นกรมธรรม์ราคาถูกที่ สำนักงาน คปภ. ร่วมกับภาคเอกชน จัดทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ในการให้ความคุ้มครองพี่น้องประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่นี้