กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างกฎกระทรวงกิจการการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง หรือเนอสซิงโฮม เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงทั้งภาครัฐและเอกชนให้มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน พร้อมรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย จะดำเนินการให้ครอบคลุมทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ
แพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรม สบส.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างกฎกระทรวงกิจการการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง ภายใต้พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามมาตรา 3 (3) ในกิจการอื่นตารมที่กฎกระทรวงกำหนด มีวัตถุประสงค์ในการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการมีคุณภาพมาตรฐาน และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี โดยเป็นการรับฟังในแบบ 360 องศา เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมแบบครบวงจรทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และประชาชน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา ปรับปรุง เพื่อผลักดันกฎกระทรวงให้เกิดเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการที่มีระบบ เช่น การส่งต่อ การรักษา รวมทั้งการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง เพื่อรองรับผู้สูงอายุในประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV และจีน เป็นการขับเคลื่อนระบบการคุ้มครองผู้บริโภคของไทยให้เป็นที่ยอมรับ และมีศักยภาพ สามารถแข่งขันในระดับอาเซียนและระดับโลกได้
นอกจากนี้ นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบเพื่อสุขภาพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซึ่งกรม สบส.ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ส่งเสริมผู้ประกอบการด้านบริการสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองและให้มีสุขภาพดี และการรับฟังความคิดเห็นฯ ในครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้มีคุณภาพมาตรฐาน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาประกอบด้วย ผู้ประกอบการผู้สูงอายุ โรงเรียนบริบาล ศูนย์บริการสาธารณสุขชุมชน 68 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ภาครัฐและเอกชน จำนวนทั้งสิ้น 250 คน
ทั้งนี้ กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างกฎกระทรวงกิจการการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงให้ครอบคลุมทั้ง 4 ภาค และทางเว็บไซต์กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ http://www.hss.moph.go.th ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2561เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2193 7000 ต่อ 18433 หรือทางเว็บไซต์กรมฯ