เช้าวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ณ บริเวณลานพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร กระทรวงสาธารณสุข ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้แทนหน่วยงาน สมาคม องค์กรต่าง ๆ ร่วมพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และกล่าวสดุดี เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข และประกอบพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลให้อดีตข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขที่ล่วงลับ
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า การสาธารณสุขไทยได้รับสถาปนาครั้งแรกด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศตั้งกรมสาธารณสุข เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2461 และทรงแต่งตั้งพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นชัยนาทนเรนทร เป็นอธิบดีกรมสาธารณสุขพระองค์แรก ซึ่งพระองค์ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจ เพื่อให้การแพทย์การสาธารณสุขเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศมาโดยตลอด ทำให้การสาธารณสุขของไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ยกฐานะเป็นกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2485 และวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2509 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้วันที่ 27 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข โดยในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมีอายุครบ 76 ปี และครบ 100 ปีของการสาธารณสุขไทย หลังจากสถาปนาครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ.2461 เป็นต้นมา
ต่อมากระทรวงสาธารณสุขได้ย้ายที่ทำการใหม่ ได้อัญเชิญพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรมาประดิษฐาน ณ หน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2537 และเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2540 กระทรวงสาธารณสุข ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดชบรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน ในพิธีเปิดที่ทำการแห่งใหม่ กระทรวงสาธารณสุข ณ เมืองนนทบุรี
100 ปีที่ผ่านมาระบบสาธารณสุขไทยมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ปัญหาสุขภาพใหม่ๆ โรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ ภัยพิบัติ ล้วนแต่เป็นความท้าทายที่ต้องเผชิญในการก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ของการสธารณสุขไทย วาระครบรอบ 100 ปีการสาธารณสุข 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการทบทวนประวัติศาสตร์และนำบทเรียนจากอดีตมาใช้เพื่อให้การก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ของการสาธารณสุขไทย เป็นศตวรรษแห่งการสร้างสรรค์เพื่อสุขภาพของประชาชนไทยอย่างแท้จริง
***************************