วันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) เพื่อขับเคลื่อนประเด็นสำคัญและการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบให้เสนอรายงานสถานการณ์ พ.ศ.2560 ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอไปดำเนินการ สำหรับการจัดทำรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยในปีต่อไป ขอให้เร่งดำเนินงานให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน
โดยที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าของการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุของหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง เช่น การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพ กำลังคนภาครัฐให้พร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ความก้าวหน้าการดำเนินงานเรื่องนักบริบาลชุมชนตลอดจน การจัดตั้งศูนย์ ASEAN Center for Active Ageing and Innovation (ACAI)
ทั้งนี้ พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญงานด้านผู้สูงอายุ ในขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการเสนอครม. เพื่อพิจารณาประกาศให้เรื่อง สังคมสูงอายุเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานอย่างเป็นองค์รวมและส่งผลให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุไทยทั่วประเทศด้วย
พลเอก อนันตพร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดทำรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2560 นั้น กผส. มีมติการประชุมครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 มอบหมายให้กองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ พิจารณาสนับสนุนงบประมาณ ให้มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) เพื่อดำเนินการจัดทำรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2560 และขณะนี้ มส.ผส. ได้จัดทำรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย เรียบร้อยแล้ว โดยในรายงานดังกล่าวได้ระบุว่า ในปี 2560 ประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุสูงขึ้นอย่างมาก คาดประมาณว่าอีกไม่เกิน 4 ปีข้างหน้านี้ประเทศไทยจะกลายเป็น สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ จึงมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1) สนับสนุนให้ผู้สูงอายุอยู่ในที่อยู่อาศัยที่ช่วยส่งเสริม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี 2) สนับสนุนให้ผู้สูงอายุดำรงชีวิตอยู่อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี 3) ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีหลักประกันรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน 4) จัดทำแผนช่วยเหลือผู้สูงอายุเมื่อเกิดภัยพิบัติและ 5) ด้านสุขภาพอนามัยของผู้สูงอายุไทย นอกจากนี้ รายงานฯ ยังมีงานวิจัยเพื่อสังคมสูงอายุ ปี2560 ได้แก่ การถอดบทเรียนที่ดีของโรงเรียนและชมรมผู้สูงอายุ ที่มีกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ การศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้สูงอายุไทย แนวทางการจัดสวัสดิการสังคมที่เหมาะสมของประเทศไทย โครงการติดตามและประเมินผลแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545 – 2564) ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2555 – 2559) การศึกษารูปแบบการให้บริการการบริหารและการจัดการ ที่พักสาหรับผู้สูงอายุ การพัฒนารูปแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยผู้สูงอายุในพื้นที่ชนบทของประเทศไทย การศึกษาปัญหาและความเสี่ยงในการถูกละเมิดสิทธิและ ประเมินสถานการณ์เพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้สูงอายุ
พลเอก อนันตพร กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้เสนอรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2560 ต่อคณะรัฐมนตรี และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนเชิงนโยบายต่อไป พร้อมทั้ง มอบหมายให้ มส.ผส. ดำเนินการจัดทำรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2561 – 2562 ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับมาตรการขับเคลื่อนระเบียบวาระแห่งชาติ เรื่อง สังคมสูงอายุ โดยกองทุนผู้สูงอายุสนับสนุนงบประมาณ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบเป้าหมายการดำเนินงาน ศพอส. ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ได้กำหนดเป้าหมายในการขับเคลื่อน ศพอส. เพื่อขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ในปี 2565 เพื่อเป็นศูนย์ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ สุขภาพ สังคม เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อม อีกทั้งเป็นพื้นที่ในการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายการดำเนินงานผู้สูงอายุ
“อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการเป็นสังคมสูงอายุ จึงได้เห็นชอบให้เสนอเรื่องสังคมสูงอายุ เป็นระเบียบวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานด้านผู้สูงอายุอย่างเป็นรูปธรรม และเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุไทยทั่วประเทศ” พลเอก อนันตพร กล่าวในตอนท้าย
สามารถติดตามข่าวสาร กิจกรรมดี ๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวการดำเนินงานของกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ได้ที่ http://www.dop.go.th/ และ https://www.facebook.com/dop.go.th/, https://www.facebook.com/OlderDOP