วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นางสาวนฤมล พงษ์สุภาพ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นฝ่ายเลขานุการ พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการฯ เข้าร่วมประชุมฯ
โดยที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้ผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้ จำนวน 11 ราย แบ่งเป็น กรณียกเว้นการทดลองเลี้ยงดู จำนวน 5 ราย กรณีต้องทดลองเลี้ยงดูอย่างน้อย 6 เดือน จำนวน 5 ราย และขอขยายเวลาการจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม จำนวน 1 ราย ซึ่งหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะรับบุตรบุญธรรมและผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรม ประกอบด้วย ผู้รับบุตรบุญธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และต้องมีอายุแก่กว่าผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมอย่างน้อย 15 ปี ผู้เป็นบุตรบุญธรรมที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี ต้องให้ความยินยอมด้วย
กรณีผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมเป็นผู้เยาว์ จะต้องได้รับความยินยอมจากพ่อและแม่กรณี ที่แม่หรือพ่อเสียชีวิตหรือถูกถอนอำนาจการปกครองถ้าไม่มีผู้มีอำนาจผู้ให้ความยินยอม หรือกรณีพ่อหรือแม่ไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีเหตุผลสมควร ให้อีกฝ่ายหนึ่งหรือผู้ที่จะขอรับบุตรบุญธรรม หรืออัยการจะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาตให้มีการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมแทนการให้ความยินยอมก็ได้ถ้าผู้เยาว์ถูกทอดทิ้งและอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ หรือสถาบันซึ่งทางราชการหรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นรับรองในการจัดตั้งขึ้น หรืออยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของบุคคลใดมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี ต้องได้รับความยินยอมของผู้รับผิดชอบในกิจการสถานสงเคราะห์หรือของบุคคลดังกล่าว
ผู้จะรับบุตรบุญธรรม หรือผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรม ถ้ามีคู่สมรสต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อน แต่ในกรณีที่คู่สมรสไม่สามารถแสดงเจตนาให้ความยินยอมได้ และหาตัวไม่พบเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี ต้องร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาตแทนการให้ความยินยอมของคู่สมรสนั้น หากผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลใดอยู่ จะเป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นอีกในขณะเดียวกันไม่ได้ เว้นแต่จะเป็นบุตรบุญธรรมของคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรมนั้น