วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ณ ห้องประชุมมหาธาตุ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) เพื่อรับฟังการชี้แจงรายละเอียดโครงการ “เราชนะ” ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องของโครงการเราชนะ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการ “เราชนะ” โดย นายอาคม เติมพิทยา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนี้ถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ สนับสนุนวงเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชน วงเงินไม่เกิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน รวมไม่เกิน 7,000 บาท โดยขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดในการยืนยันการประกอบกิจการและยืนยันผู้ให้บริการ รวมถึงขอให้สนับสนุนเชิญชวนประชาชนและผู้ให้บริการสมัครเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมทั้งอำนวยความสะดวกกับธนาคารกรุงไทยในการออกหน่วยเคลื่อนที่เพื่อรับลงทะเบียนผู้ประกอบการ ร้านค้า และผู้ให้บริการรายย่อย
ด้านพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ย้ำว่า ทุกจังหวัดต้องขับเคลื่อนโดยใช้กลไก คลังจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ เครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้านและท้องถิ่น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้โครงการเราชนะประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ รวมทั้งขอให้ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเฉพาะที่เกี่ยวกับโครงการเราชนะโดยใช้ระบบออนไลน์ สำหรับโครงการเราชนะเพื่อประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมกว่า 31.1 ล้านคน วงเงินกว่า 210,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนและเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับฐานราก ประกอบด้วย กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับวงเงินสิทธิผ่านบัตรฯ เข้าทุกวันศุกร์ ติดต่อกัน 8 สัปดาห์ โดยอัตโนมัติ , กลุ่มผู้มีแอป “เป๋าตัง” ที่ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง/เราเที่ยวด้วยกัน และมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขสามารถกดรับยืนยันสิทธิ์ผ่านแอป และกลุ่มประชาชนที่ไม่ใช่กลุ่มที่ 1 และ 2 ลงทะเบียนออนไลน์ผ่าน
www.เราชนะ.com โดยสามารถใช้สิทธิ์ในวงเงินจนถึงสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ สำหรับกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ทางรัฐบาลจะแจ้งวิธีการลงทะเบียนในโอกาสต่อไป
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การลงทะเบียนตามโครงการเราชนะ สำหรับประชาชนในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ระบบลงทะเบียนในระบบอยู่แล้ว ส่วนในกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่จะต้องลงทะเบียนใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. – 12 ก.พ. 64 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องให้คำแนะนำการลงทะเบียน และกลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน จะเริ่มลงทะเบียน 15 ก.พ.64 ซึ่งจะต้องรอความชัดเจนในวิธีการลงทะเบียนในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมประชาสัมพันธ์รายละเอียดการลงทะเบียนโครงการเราชนะ ซึ่งธนาคารกรุงไทย ได้จัดจุดบริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ จำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขาบิ๊กซีอยุธยา สาขาอยุธยาซิตี้ปาร์ค และสาขาศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสำหรับธนาคารกรุงไทยสาขาอื่นๆ อีก 9 สาขา จะให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา