รมว.แรงงาน พบปะแรงงานไทยที่ได้รับคัดเลือกไปทำงานเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) พร้อมมอบสัญญาจ้างงาน ย้ำ ตั้งใจทำงาน ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุข รู้จักเก็บออม นำประสบการณ์มาต่อยอดในการประกอบอาชีพ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวให้โอวาทและมอบสัญญาจ้างงานให้กับแรงงานไทยที่ได้รับการคัดเลือกไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) ณ ห้องประชุมจอมพล ป.พิบูลสงคราม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมีแรงงานไทยเข้าร่วมจำนวน 320 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานในสาขาอุตสาหกรรม
โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกคน ที่ได้รับการคัดเลือกจากนายจ้างให้เดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งกว่าจะถึงวันนี้ต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกหลายครั้ง รวมทั้งต้องฝึกฝนภาษาเกาหลี และทักษะการทำงานซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องขอชื่นชม การไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี เป็นความใฝ่ฝันของคนไทยจำนวนไม่น้อย เนื่องจากอัตราค่าจ้างที่สูงมาก ประมาณ 40,000 – 45,000 บาทต่อเดือน
ปัจจุบันมีแรงงานไทยอยู่ทำงานในเกาหลีประมาณ 188,202 คน โดยเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ประมาณ 122,192 คน โดยตั้งแต่ ม.ค. – พ.ย.61 มีแรงงานไทยเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีแล้ว 5,176 คน ซึ่ง รมว.แรงงาน ได้มีนโยบายการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาแรงงานไทยไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อดูแลแรงงานไทยโดยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานแรงงานไทยที่สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อให้การช่วยเหลือแรงงานไทยและอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนงาน การเดินทางกลับประเทศไทย จัดตั้งที่พักพิงสำหรับแรงงานระบบ EPS ที่รอเปลี่ยนนายจ้าง ณ วัดป่าพุทธรังษี ติดตามและผลักดันการเจรจากับสาธารณรัฐเกาหลีในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การเพิ่มโควตาแรงงานไทยในระบบ EPS จาก 5,000 คน เป็น 15,000 คน การต่ออายุสัญญาจ้างแรงงานงานไทย จาก 9 ปี เป็น 14 ปี และคุณสมบัติด้านอายุจากไม่เกิน 39 ปี เป็น 45 ปี การเพิ่มตำแหน่งงานสำหรับสตรี การลดระยะเวลาขั้นตอนเอกสารจาก 89 วัน เหลือ 30 วัน จัดทำระบบรองรับการกลับมาของแรงงานไทยตามระบบ EPS โดยมีฐานข้อมูลแรงงานไทยที่กลับมาจากเกาหลี ฐานข้อมูลตำแหน่งงานรองรับในประเทศไทย รวมทั้งสถานประกอบการของทางเกาหลีที่มาลงทุนในประเทศไทย เป็นต้น
พล.ต.อ.อดุลย์ฯ ยังได้เน้นย้ำให้แรงงานไทยที่ได้รับการคัดเลือกไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีทุกคน ตั้งใจทำงาน รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ปฏิบัติตามกฎหมาย และวัฒนธรรมของสาธารณรัฐเกาหลี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สิ่งของมึนเมา และการพนัน รู้จักเก็บออม และส่งเงินให้กับครอบครัว รวมทั้งเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงาน
“สิ่งใดที่ดีเป็นประโยชน์ ขอให้จดจำและนำกลับมาใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาษาเกาหลี ซึ่งเมื่อครบสัญญาจ้างและเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จะสามารถหางานทำได้โดยง่าย รวมทั้งถ่ายทอดให้กับสมาชิกในครอบครัว หรือคนในชุมชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวเอง ครอบครัว และชื่อเสียงของประเทศไทย รวมทั้งแรงงานไทยที่จะได้เดินทางไปทำงานในรุ่นต่อ ๆ ไปอีกด้วย”พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวในท้ายสุด
—————————————–
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์/ชนินทร เพ็ชรทับ – ข่าว/สมภพ ศีลบุตร – ภาพ