นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า ช้างบ้านนับเป็นต้นทุนที่สำคัญในหลายๆ ด้านของประเทศ ทั้งต้นทุนทางวัฒนธรรม ประเพณีและประวัติศาสตร์ ต้นทุนทางธรรมชาติ และต้นทุนทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันช้างมีบทบาทด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย และสร้างรายได้ ที่สำคัญให้ประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ และอัตลักษณ์ของการท่องเที่ยวของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม พบว่าปางช้างบางส่วนยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการปฏิบัติที่ดีในการจัดการเลี้ยงช้างที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องสุขภาพช้างและหลักสวัสดิภาพสัตว์ จึงส่งผลให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพช้างและการทารุณกรรมช้าง
คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร จึงมีมติเห็นควรให้ มกอช. พิจารณาจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตร ที่เกี่ยวข้องกับปางช้าง เพื่อการปรับปรุงการปฏิบัติที่ดีในการจัดการเลี้ยงช้างที่ถูกต้องและเหมาะสม ให้เป็นไปตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ แก้ไขปัญหาการทารุณกรรมช้าง รวมทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานปางช้างไทย โดย มกอช. ได้จัดทำร่างมาตรฐานเสนอคณะกรรมการวิชาการพิจารณาร่างมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับ ปางช้าง และเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรได้เห็นชอบให้มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้างเป็นมาตรฐานบังคับ โดยใช้บังคับกับปางช้างทุกขนาด และมีผลบังคับใช้นับแต่ วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยมาตรฐานฉบับนี้มีขอบข่ายกำหนดการปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง ครอบคลุมองค์ประกอบปางช้าง การจัดการปางช้าง บุคลากร สุขภาพช้าง สวัสดิภาพสัตว์ สิ่งแวดล้อม การจัดการ ด้านความปลอดภัย และการบันทึกข้อมูล โดยมาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ ไม่ครอบคลุมการเลี้ยงช้างในครัวเรือน โดยไม่มีการประกอบกิจการเกี่ยวกับช้างเพื่อการท่องเที่ยวหรือการแสดง และการเลี้ยงช้างไว้ใช้แรงงาน เช่น การชักลาก เป็นต้น ทั้งนี้ มกอช. ได้ดำเนินการออกประกาศสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เพื่อรับฟังความคิดเห็น ในการกำหนดมาตรฐานบังคับ การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 โดยจะสิ้นสุดการรับฟังความคิดเห็นภายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการออกกฎกระทรวงต่อไป