รมว.แรงงาน ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการ ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมฯ พ.ศ.2545 เน้นพนักงานให้มีคุณภาพ
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ราชาเซรามิค จำกัด ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการผลิตเซรามิค เครื่องปั้นดินเผา มีพนักงานจำนวน 1,882 คน และบริษัท นำเชา (ประเทศไทย) จำกัด เป็นสถานประกอบกิจการ ผลิตอาหารกึงสำเร็จรูป มีพนักงานจำนวน 1,397 คน ซึ่งได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ดำเนินการพัฒนาทักษะให้พนักงานในสถานประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ (Super Worker)
นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กล่าวต่อไปว่า กพร.ได้ดำเนินการฝึกยกระดับทักษะให้กับพนักงานเพื่อเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ (Super Worker) ตามนโยบายเร่งด่วน (Agenda Based) ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีแผนที่จะพัฒนาแรงงานคุณภาพ จำนวน 59,300 คน ทั้งประเทศ และดำเนินการในจังหวัดราชบุรี 720 คน ทั้งนี้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 4 ราชบุรี (สพร.4 ราชบุรี) ในปี 2561
ได้เข้าไปจัดฝึกอบรมยกระดับฝีมือแรงงานให้กับพนักงานลูกจ้างของบริษัท ราชาเซรามิค จำกัด และบริษัท นำเชา (ประเทศไทย) จำกัด ในสาขาช่างเชื่อม และสาขาภาษาเพื่อการสื่อสาร อาทิ อังกฤษ และจีน เป็นต้น และในปี 2562 สพร. 4 ราชบุรี มีโครงการส่งเสริมสนับสนุนให้สถานประกอบกิจการดำเนินการพัฒนาฝีมือแรงงาน เป้าหมาย 20,000 คน ที่เน้นการพัฒนาทักษะในสาขาต่างๆ อาทิ หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร การบำรุงรักษาและควบคุมรถยก กลยุทธ์บริหารงานและการจัดการ และช่างเชื่อม เป็นต้น ทั้งนี้ รมว.แรงงาน ได้พบปะพูดคุยกับพนักงาน และชื่นชมบริษัททั้ง 2 แห่งที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทั้งด้านการฝึกภาษา และด้านช่าง ซึ่งส่งผลดีต่อผลิตภัณฑ์และการดำเนินกิจการให้ดีขึ้น
นายอัครเศรษฐ เกสรราช รองผู้จัดการโรงงาน บริษัท นำเชา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้กำหนดแผนการฝึกทักษะให้พนักงานในบริษัทประจำทุกปี ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมฯ 2545 โดยเน้นการฝึกทักษะด้านผลิตภาพ การประกันคุณภาพ ด้านภาษา และด้านช่าง เพื่อให้มีทักษะเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ได้รับการประสานงานอย่างดีเยี่ยมจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 4 ราชบุรี (สพร.4 ราชบุรี) ที่ดำเนินการฝึกทักษะในด้านต่างๆให้กับพนักงานในบริษัทมาโดยตลอด อาทิ สาขาช่างเชื่อม ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ที่พนักงานต้องมีทักษะในการติดต่อประสานงานเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง และการติดต่อการค้าส่งออกระหว่างประเทศ ทั้งนี้ช่วยเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพ ทำให้เพิ่มความสามารถในการการแข่งขันทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่พนักงานทุกคนต้องได้รับการพัฒนาทักษะเพื่อประสิทธิผลในการทำงาน ทางบริษัทต้องการแรงงานที่มีความพร้อมในการทำงาน มีความรู้กว้าง รู้ลึก รู้จริง โดยในปี 2562 ทางบริษัทมีแผนที่จะเน้นพัฒนาทักษะพนักงานเกี่ยวกับระบบออโตเมชัน และเมกาทรอนิกส์ ต่อไปอีกด้วย