จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานถวายพระราชกุศล 417 ปี แห่งการสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อรำลึกถึงพระบรมราชานุภาพและพระมหาวีรกรรมสูงสุดของพระองค์

เมื่อเวลา 16:00 น. วันที่ 18 มกราคม 2564 ที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้ นายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานถวายพระราชกุศล 417 ปี แห่งการสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมี พระธรรมปัญญาบดี ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วย พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระสังฆาธิการ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมในพิธีในครั้งนี้

การจัดพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานอุทิศถวายพระราชกุศล 417 ปี แห่งการสวรรคตสมเด็จพระนเรศรวรมหาราช เนื่องในวันยุทธหัตถี ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชา เพื่อรำลึกถึงพระบรมราชานุภาพและพระมหาวีรกรรมสูงสุดของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักรบที่ยิ่งใหญ่ ทรงอุทิศพระองค์กอบกู้เอกราช ปกป้องรักษาบ้านเมืองให้ปวงประชาราษฎร์ จนประวัติศาสตร์ได้จารึกพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจไว้อย่างภาคภูมิ จึงนับได้ว่าพระองค์ทรงมีคุณูปการต่อผืนแผ่นดินและชนชาติไทยอย่างใหญ่หลวง

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตรีย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) พระองค์เสด็จพระบรมราชสมภพ เมื่อ พ.ศ.2098 ที่เมืองพิษณุโลก ทรงมีพระเชษฐภคิณีคือ พระสุพรรณกัลยา ทรงมีพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) ได้ทรงทำสงครามยุทธหัตถี เมื่อวันที่ 18 มกราคม ปี พ.ศ.2135 เมื่อครั้งหงสาวดียกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา และทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาได้รับชัยชนะ ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ 18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันยุทธหัตถี เป็นวันรัฐพิธีที่สำคัญอีกวันหนึ่งของประเทศไทย และ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

……………………….
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา