“อมตะ” โชว์ความสำเร็จธุรกิจผู้พัฒนานิคมฯรายแรกของไทย คว้า 2 รับรางวัลใหญ่ ในงาน “พิธีประกาศผลและมอบรางวัล SET Sustainability Awards 2018” ทั้งรางวัล Thailand Sustainability Investment Award 2018” และ รางวัล SET Sustainability Awards 2018 – Rising Star จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกย้ำเดินหน้าความเป็นผู้นำ สมาร์ทซิตี้ ในปี 64 ยึดหลักธรรมาภิบาล บริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และชุมชนยั่งยืน
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า วันนี้ (31 ต.ค.61) บมจ.อมตะฯ เข้ารับรางวัล “Thailand Sustainability Investment Award 2018”(THSI) หรือรางวัลหุ้นยั่งยืน จาก ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ และ รางวัล SET Sustainability Awards 2018 – Rising Starประจำปี 2561 จาก ดร. ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในงาน “พิธีประกาศผลและมอบรางวัล SET Sustainability Awards 2018” จาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)โดย มีเป้าหมายที่จะมุ่งเน้นให้บริษัทจดทะเบียนมีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล(Environmental, Social and Governance หรือ ESG) ซึ่งถือเป็นรางวัลที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ AMATA ที่ดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนมาโดยตลอดระยะเวลา 30 ปี
“ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของ AMATA ได้มุ่งเน้นแนวทางการพัฒนาธุรกิจที่สอดรับกับแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มุ่งหวังให้บริษัทจดทะเบียนไทยตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจอย่างสมดุลระหว่างผลประกอบการทางการเงิน และความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนตามแนวคิด “การลงทุนอย่างยั่งยืน” และต้องการลงทุนในหุ้นที่สามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคม และรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดี ” นายวิบูลย์กล่าว
บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)ได้เข้าร่วมประเมินความยั่งยืนในปี 2561 เป็นปีแรก และได้รับรางวัล “Thailand Sustainability Investment Award 2018” (THSI)หรือ “หุ้นยั่งยืน” พร้อมกับ รางวัล SET Sustainability Awards 2018 – Rising Star ที่ทำการคัดเลือกและตัดสิน โดย ตลท. มีการพิจารณาจากบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจ ที่มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และมีความโดดเด่น
ทั้งนี้อมตะให้ความสำคัญการพัฒนาธุรกิจแบบยั่งยืนด้วยการมุ่งสู่การบริหารภายในองค์กรให้เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมอมตะทุกแห่ง ส่งเสริมนวัตกรรมและการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มมูลค่าและผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นของอมตะในระยะยาวได้
นอกจากนี้บริษัทได้กำหนดแผนการดำเนินงานระยะ 5 ปี (2560-2564)ที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจและสิ่งแวดล้อมและสังคมไทยด้วยการมุ่งสู่การเป็นผู้นำเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ระดับโลก พร้อมกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอมตะให้เป็นพื้นที่การลงทุนที่สมบูรณ์แบบในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC และศูนย์การเรียนรู้ในภูมิภาคนี้ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยต่อไปในอนาคต