วันที่ 31 ตุลาคม 2561 พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า จากกรณีที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวมีชาวบ้าน ถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากไปเปิดบัญชีธนาคาร และเปิดซิมโทรศัพท์มือถือให้กับมิจฉาชีพ ที่อ้างว่ามีโครงการมาช่วยเหลือทำบ้านให้ใหม่ และช่วยค่าใช้จ่ายในครอบครัว และต่อมาได้พบว่าชาวบ้านคนดังกล่าว ถูกตำรวจนำกำลังมาจับกุม ขณะเดียวกันก็ยังพบอีกว่ามีหมายจับข้อหาเดียวกันที่จังหวัดอื่นด้วย โดยพนักงานสอบสวนแจ้งว่า มีผู้เสียหายแจ้งความว่าถูกแก๊งโรแมนซ์สแกมหลอกจะส่งของมาให้จากต่างประเทศ แต่ของติดอยู่ที่สนามบินจำเป็นต้องนำเงินไปจ่ายเพื่อเอาของออกมา และหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี จากการตรวจสอบพบเป็นบัญชีของชาวบ้านคนดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชี นั้น
รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันรูปแบบของการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับ การฟอกเงินผ่านอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยพัฒนารูปแบบให้ซับซ้อน ยากแก่การตรวจสอบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยการรับซื้อขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม อาจกล่าวได้ว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการหลอกลวงให้โอนเงิน ที่มักเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักศึกษาและผู้ที่มีรายได้น้อย โดยจะเสนอค่าตอบแทนหรือสิ่งของที่มีมูลค่าเป็นค่าจ้างในการเปิดบัญชี ซึ่งผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีถือว่าเป็นการให้ความร่วมมือกับมิจฉาชีพ ด้วยวิธีการรับจ้างเปิดบัญชี เพื่อใช้ในการหลอกลวงให้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อและถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งสำนักงาน ปปง. จะตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ จนนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในที่สุด และจะดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินกับผู้ที่จ้างให้เปิดบัญชีและผู้รับจ้างเปิดบัญชีอย่างเด็ดขาดและถึงที่สุดเช่นกัน ทั้งนี้ความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท
รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ปปง. มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชน จึงขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อจนตกเป็นเหยื่อการซื้อขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย หรือพบเห็นการกระทำความผิด ให้โทรสอบถามหรือแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปปง. 1710 หรือ ผ่านทาง QR Code