พม. รับรองกิจการเพื่อสังคมใน ๑๔ สถานประกอบการ

วันศุกร์ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น ๒ อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (หลังใหม่) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ โดยมี นายอภิชาติ อภิชาตบุตร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะกรรมการ และนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาอนุมัติกิจการที่ยื่นคำขอหนังสือรับรองกิจการ เพื่อสังคมของสถานประกอบการ จำนวน ๑๔ กิจการ

 

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ฝ่ายเลขานุการได้รายงานความก้าวหน้า ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. …. และรายงานผลการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วม ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินกิจการเพื่อสังคมต่อไปนั้น ส่งผลให้มีสถานประกอบการยื่นคำขอหนังสือรับรองกิจการเพื่อสังคมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ได้พิจารณาอนุมัติกิจการเพื่อสังคม (ครั้งที่ ๒) จำนวน ๑๔ กิจการ ได้แก่ ๑) บริษัท ไรท์วิว วิสาหกิจเพื่อสังคม ๒) บริษัท มานา วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ๓) บริษัท สังคมดี จำกัด ๔) บริษัท นวัตกรรมชาวบ้าน จำกัด ๕) บริษัท แบ่ง ปัน ให้ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ๖) บริษัท วิสาหกิจสุขภาพชุมชน จำกัด ๗) บริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ๘) บริษัท กรีน สไตล์ จำกัด ๙) บริษัท คนกล้าคืนถิ่น (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ๑๐) บริษัท ธุรกิจเพื่อพัฒนาการศึกษาและชนบท จำกัด ๑๑) บริษัท ปันฝัน 2013 จำกัด ๑๒) บริษัท ศาลานา ออแกนิค วิลเลจ จำกัด ๑๓) บริษัท ลิฟวิ่ง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และ ๑๔) บริษัท โซเชียลโมชั่น จำกัด และเพื่อให้การดำเนินงานกิจการเพื่อสังคมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชน ชุมชน สังคม ได้ประโยชน์ ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมและเป็นหุ้นส่วนกับภาครัฐและภาคส่วนอื่นในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนซึ่งคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ได้พิจารณาร่างแผนปฏิบัติการด้านการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔) เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนงานด้านการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม ต่อไป

รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อยโอกาสให้มีรายได้ในการดูแลตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน ให้ภาคธุรกิจเอกชนร่วมพัฒนาคน สังคม ให้เข้ามามีส่วนร่วม
ในการดูแลสังคม โดยการดำเนินกิจการเพื่อสังคมอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และเป็นการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ การดำเนินงานกิจการเพื่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรมและมีธรรมาภิบาล