สธ.เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ“เจาะเลือดใกล้บ้าน”ตั้งเป้าดำเนินการใน รพ.นำร่องทุกเขตสุขภาพ ภายในปี 64

กระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนโครงการลดความแออัดทางห้องปฏิบัติการ “เจาะเลือดใกล้บ้าน”  เพื่อสนับสนุนนโยบายลดความแออัด โดยลดระยะเวลาการรอคอยการเจาะเลือดและบริการทางห้องปฏิบัติการ ด้วยการวางระบบการเจาะเลือด การเก็บตัวอย่างและการส่งตัวอย่างจากหน่วยบริการภายนอกโรงพยาบาล ก่อนกำหนดวันพบแพทย์ เผยผลการดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งจะเป็นหน่วยงานนำร่องตั้งแต่มกราคม 2563 พบว่า ผู้รับบริการมีความพึงพอใจในการรับบริการเจาะเลือดที่หน่วยบริการใกล้บ้าน สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนาน ตั้งเป้าในปี 2564 จะดำเนินการต่อเนื่องไปยังโรงพยาบาลนำร่องทุกเขตสุขภาพ


วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2563) ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานในพิธีเปิดการประชุมรับฟังนโยบายลดความแออัดทางห้องปฏิบัติการโดยการเจาะเลือดใกล้บ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสามหมอ เพื่อให้ประชาชนสามารถเจาะเลือดนอกโรงพยาบาล รับยาใกล้บ้าน กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายการแก้ไขปัญหาความแออัดในโรงพยาบาล เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการที่ดี ลดความแออัด ลดการรอคอย ลดความเหลื่อมล้ำ ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน สร้างความพึงพอใจในคุณภาพการบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลประชาชนให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เน้นเพิ่มศักยภาพการให้บริการของหน่วยบริการสาธารณสุขทุกระดับเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่เขตสุขภาพ โดยในปีงบประมาณ 2563 ได้ดำเนินการนำร่องที่โรงพยาบาลนครปฐมและเครือข่ายในพื้นที่ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา พบว่าผู้รับบริการมีความพึงพอใจในการรับบริการเจาะเลือดนอกโรงพยาบาลที่หน่วยบริการใกล้บ้าน สะดวกรวดเร็ว เนื่องจากใช้เวลาน้อย เพียงสิบกว่านาที ไม่ต้องรอคิวนาน เดินทางสะดวก พร้อมกันนั้นสามารถรับยา


นพ.ประพนธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการนำร่องที่โรงพยาบาลนครปฐมและเครือข่ายในพื้นที่ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา พบว่าผู้รับบริการมีความพึงพอใจในการรับบริการเจาะเลือดนอกโรงพยาบาลที่หน่วยบริการใกล้บ้าน สะดวกรวดเร็ว เนื่องจากใช้เวลาน้อย เพียงสิบกว่านาที ไม่ต้องรอคิวนาน เดินทางสะดวก พร้อมกันนั้นสามารถรับยา และในปีงบประมาณ 2564 กระทรวงสาธารณสุขได้รับงบประมาณในการลดความแออัดทางห้องปฏิบัติการจะดำเนินการในโรงพยาบาลนำร่องทุกเขตบริการสุขภาพ และมีการกำกับดูแลมาตรฐานของการตรวจวิเคราะห์ การเก็บตัวอย่างและ การส่งตัวอย่าง โดย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ องค์กรเทคนิคการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถลดค่าใช้จ่าย ลดการเดินทาง ด้วยคุณภาพที่เท่าเทียม และปลอดภัยจากโรคโควิด 19


นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีภารกิจเกี่ยวกับการกำกับดูแลมาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชนและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศได้หาแนวทางการลดความแออัดทางห้องปฏิบัติการในโรงพยาบาล พบว่า จุดหนึ่งที่สำคัญ คือ การลดระยะเวลาในการรอคอย การเจาะเลือดและบริการ ทางห้องปฏิบัติการ การเจาะเลือดใกล้บ้านที่ รพ.สต. หรือสถานบริการสุขภาพหรือคลินิกเอกชน ก่อนนัดพบแพทย์จะสามารถลดระยะเวลาการรอคอยในโรงพยาบาลมากกว่า 2 – 5 ชั่วโมง ซึ่งช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลได้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้ร่วมมือกับกองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการส่งเสริมและประสานความร่วมมือด้านการจัดระบบบริการสุขภาพกับหน่วยงานที่ให้บริการหรือหน่วยบริการสุขภาพของชุมชนท้องถิ่นและภาคเอกชนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจัดทำคู่มือหน่วยบริการเจาะเลือด เก็บตัวอย่างนอกโรงพยาบาล เพื่อกำกับดูแลมาตรฐาน และความปลอดภัยของผู้ป่วย

 

…………………………………………………………………………..