ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่าจากกรณีเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณ 07.50 น. เกิดเหตุรถตู้โดยสาร หมายเลขทะเบียน 33-2779 กรุงเทพมหานคร นำแรงงานชาวเมียนม่า เดินทางจากจังหวัดสมุทรสาคร ไปยังจังหวัดตาก เสียหลักชนต้นไม้และไฟลุกไหม้ ณ บริเวณหน้าโรงสีคงเดช ตำบลท่าพุทรา อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร (ทางหลวงหมายเลข 1 ขาขึ้น) ห่างจากโรงพยาบาลคลองขลุงราษฎร์รังสรรค์ ประมาณ 500 เมตร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 9 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 7 ราย
สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เลขาธิการ คปภ. จึงได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์บูรณาการร่วมกับสำนักงาน คปภ. ภาค 2 และสำนักงาน คปภ. จังหวัดกำแพงเพชรลงพื้นที่เพื่อติดตามและประสานงานกับบริษัทประกันภัย เพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เป็นไปโดยรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม พร้อมทั้งได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าผู้ประสบภัยได้มีการทำประกันชีวิตหรืออุบัติเหตุส่วนบุคคลอื่นไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถตู้โดยสารหมายเลขทะเบียน 33-2779 กรุงเทพมหานคร ได้มีการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ NCMI9000782915 เริ่มคุ้มครองเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2561 และสิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 12 เมษายน 2562 และการประกันภัยภาคสมัครใจกับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน)ด้วยเช่นกัน กรมธรรม์เลขที่ R01VM10000241694 เริ่มคุ้มครองเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2561 และสิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 6 เมษายน 2562 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย จำนวน 300,000 บาท/คน และ 10,000,000 บาท/ครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 600,000 บาท/ครั้ง) รถยนต์เสียหาย สูญหายไฟไหม้ จำนวน 450,000 บาท) ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (อุบัติเหตุส่วนบุคคล เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 100,000 บาท ผู้โดยสาร 14 คน จำนวน 100,000 บาท/คน ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 100,000 บาท/คน การประกันตัวผู้ขับขี่ จำนวน 600,000 บาท/ครั้ง) ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้ติดตามเร่งรัดบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิดทั้งในเรื่องข้อมูลความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย รวมทั้ง เอกสารหลักฐานต่างๆ ประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ อุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากถึงประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการรถสาธารณะที่ให้บริการประชาชนจำนวนมาก ควรทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนดและหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงและครบวงจร สำหรับผู้ประกอบการที่มีแรงงานเป็นชาวต่างด้าวและได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้จัดทำประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับผู้ใช้แรงแรงต่างด้าว เพื่อแสดงถึงความห่วงใยและความปรารถนาดีและเป็นสวัสดิการที่ให้ความคุ้มครองทั้งกรณีเสียชีวิต/สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ กรณีถูกลอบฆาตกรรมทำร้ายและค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186