วันที่ 19 ตุลาคม 2561 พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงข้าราชการสำนักงาน ปปง. ที่มีพฤติการณ์เรียกรับสินบนจากนักธุรกิจเช่ารถในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวสื่อสาธารณะ ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลความผิดจริง ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้มีการอ้างว่า สำนักงาน ปปง. จะได้รับส่วนแบ่ง 20% จากการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดนั้น ขอเรียนชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากโดยกระบวนการปกติแล้ว เมื่อมีการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จะต้องส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหายในคดีนั้น ๆ จึงขอยืนยันว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบคดีไม่ได้มีส่วนแบ่งจากการดำเนินการแต่อย่างใด และสำหรับกรณีที่ข้าราชการรายดังกล่าวมีหมายจับ สำนักงาน ปปง. ได้มีการพิจารณาดำเนินการไว้ก่อนแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับกรณีที่มีคลิปเสียงของข้าราชการดังกล่าวอ้างว่าตนเป็นผู้อำนวยการส่วนนั้น ไม่เป็นความจริงเป็นเพียง การแอบอ้าง ซึ่งข้าราชการดังกล่าวมีตำแหน่งเพียงข้าราชการระดับปฏิบัติการเท่านั้น
รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวย้ำว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีข้าราชการหรือบุคคลอื่น ที่เกี่ยวข้อง สำนักงาน ปปง. จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดทุกราย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
ทั้งนี้ หากประชาชนพบการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ปปง. ได้ที่สายด่วน ปปง. 1710 หรือผ่านทาง QR Code