นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้พบหารือกับนายอีโว ซีเบอร์ (H.E. Mr. Ivo Sieber) เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย และนายทูร์ เฮาวค์ (Mr. Tor Haug) อัครราชทูตที่ปรึกษาราชอาณาจักรนอร์เวย์ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 เรื่องการขยายความสัมพันธ์ ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) หรือเอฟต้า ในฐานะที่ทั้งสองประเทศเป็นตัวแทนเอฟต้าในไทย จึงเห็นว่าไทยกับเอฟต้า น่าจะมีโอกาสและศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือทางการค้าการลงทุนระหว่างกันได้
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสถิติการค้าและการลงทุนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าไทยกับเอฟต้ามีมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จาก 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2549 เป็น 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2560 อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนากฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน และรับมือการค้ายุคใหม่ ตลอดจนมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เช่น หุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัล และการแพทย์ครบวงจร เป็นต้น ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมอนาคตที่เอฟต้ามีความชำนาญ นอกจากนี้ ไทยยังได้เชิญชวนเอฟต้าเข้าร่วมกิจกรรมที่ไทยในฐานะประธานอาเซียนในปี 2562 มีแผนจะจัดขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมเพื่อเตรียมบุคลากรรองรับการปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ที่เทคโนโลยีหุ่นยนต์และออโตเมชั่นจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งเอฟต้าสนใจและพร้อมร่วมกิจกรรมกับไทย
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มีหลายประเทศนำมาตรการปกป้องและกีดกันการค้ามาใช้มากขึ้น จึงควรร่วมมือกันผนึกกำลังให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบการค้าพหุภาคีของ WTO ให้มีความเข้มแข็งเป็นที่พึ่งของสมาชิกได้ โดยเอฟต้าแจ้งว่ามีนโยบายขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้า ผ่านการจัดทำ FTA โดยปัจจุบัน เอฟต้ามี FTA ถึง 28 ฉบับ กับ 39 ประเทศทั่วโลก เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ซึ่งเอฟต้าสนใจฟื้นการเจรจา FTA กับไทยที่เปิดเจรจามาตั้งแต่
ปี 2548 แต่ปัจจุบันได้หยุดชะงักไป ซึ่งระหว่างนี้อาจเริ่มจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลพัฒนาการด้านนโยบายและมาตรการทางการค้า หลังจากนั้นจึงค่อยพิจารณาความพร้อมและช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะกลับมาเจรจา FTA กัน
ทั้งนี้ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือเอฟต้า (EFTA) ประกอบด้วย สมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2506 เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจและการค้าเสรีระหว่างประเทศสมาชิก โดยสมาชิกเอฟต้าเป็นประเทศขนาดเล็กแต่มีขนาดเศรษฐกิจในระดับชั้นนำของโลก มีศักยภาพสูงด้านการผลิตสินค้าและบริการ ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมทั้งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ของโลก ในปี 2560 เอฟต้าเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 11 ของไทย การค้ารวม มีมูลค่า 12,331 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเอฟต้า มูลค่า 4,735 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากเอฟต้ามูลค่า 7,596 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่ง และทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น
————————————-
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์