พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 พร้อมเยี่ยมผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ โดยมี นายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ พลเอก สุชาติ หนองบัว กรรมการการเคหะแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการการมีส่วนร่วมการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูชุมชนดินแดง นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ คณะผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ คณะกรรมการการมีส่วนร่วมการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูชุมชนดินแดง ผู้นำชุมชนโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 ร่วมให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 ณ อาคารโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนวิภาวดีรังสิตตัดกับถนนดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ภายหลังจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีส่งมอบอาคารโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติเปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยเดิมที่ได้รับสิทธิเช่าและครอบครัวขยายย้ายเข้าอยู่อาศัยจำนวน 238 หน่วย ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม 2561 เรียบร้อยแล้ว สำหรับการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ระยะที่ 2, 3 และ 4 ตามแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (พ.ศ. 2559 – 2567) ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 โดยให้การเคหะแห่งชาติดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ระยะที่ 2 จำนวน 1,247 หน่วย โครงการฯ ระยะที่ 3 จำนวน 3,333 หน่วย และโครงการฯ ระยะที่ 4 จำนวน 1,632 หน่วย วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 10,115.238 ล้านบาท ตลอดจนอนุมัติในหลักการบริหารจัดการคนเข้าอยู่อาศัยในโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ระยะที่ 1 – 4 ในกรณีที่มีหน่วยพักอาศัยคงเหลือจากการบรรจุผู้อยู่อาศัยเดิมในแต่ละระยะของโครงการฯ
“…ขณะนี้โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 ยังมีห้องว่างอีกประมาณ 90 หน่วย ตนได้มอบนโยบายให้การเคหะแห่งชาติเปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยเดิมที่ได้รับสิทธิในโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 มายื่นคำร้องขอเข้าอยู่ในอาคารโครงการฯ ระยะที่ 1 ปัจจุบันมีผู้ยื่นคำร้องแล้ว 106 ราย ซึ่งมีจำนวนมากกว่าห้องที่เหลืออยู่ โดยการเคหะแห่งชาติจะดำเนินการจับสลากผู้ได้สิทธิเช่าประมาณปลายเดือนตุลาคม 2561…” พลเอก อนันตพร กล่าวท้าย
สำหรับการก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างเพื่อรื้อถอนอาคารแฟลตดินแดงเดิม (แฟลตที่ 18 – 22) คาดว่าจะเริ่มรื้อถอนได้ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งในขั้นตอนนี้จะดำเนินการควบคู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 จำนวน 1,247 หน่วย โดยจะประกาศหาผู้รับจ้างภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการฯ ภายในเดือนมีนาคม 2562 ทั้งนี้ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 จะทำการก่อสร้าง 2 อาคารคือ อาคาร A1 ตั้งอยู่บริเวณถนนจตุรทิศ (รองรับผู้อยู่อาศัยเดิมจากแฟลตที่ 9 – 17 และแฟลตที่ 63 – 64) จัดสร้างเป็นอาคารสูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 635 หน่วย และอาคาร D1 ตั้งอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต (รองรับผู้อยู่อาศัยเดิมจากแฟลตที่ 23 – 32) เป็นอาคารสูง 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 612 หน่วย
นอกจากนี้ พลเอก อนันตพร ยังได้เยี่ยมเยียนผู้อยู่อาศัยในโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 1 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรกคือ กลุ่มผู้สูงอายุ มีจำนวน 156 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 ของผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ ซึ่งการเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่มาอาศัยอยู่ในอาคารสูง 28 ชั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัย เนื่องจากการเคหะแห่งชาติได้ออกแบบห้องพักอาศัยและบริเวณโดยรอบโครงการฯ ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับผู้สูงอายุ เช่น มีราวจับในห้องน้ำ ทางลาด และลิฟต์ เป็นต้น อีกทั้งยังจัดเตรียมห้องสันทนาการสำหรับจัดกิจกรรมของผู้สูงอายุและผู้อยู่อาศัยไว้ที่ชั้น 6 โดยจะมีกิจกรรมสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุตลอดทั้งปีให้กับผู้อยู่อาศัยทุกกลุ่ม เช่น การให้ความรู้ด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ การฝึกสมาธิ การฝึกอาชีพ เป็นต้น
กลุ่มต่อมาคือ กลุ่มจิตอาสา เป็นการรวมตัวของผู้อยู่อาศัยในชุมชนที่ต้องการเห็นชุมชนน่าอยู่อาศัยและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยกลุ่มจิตอาสานี้จะช่วยกันดูแลชุมชนทั้งเรื่องความสะอาดและการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินส่วนรวมตามที่ผู้อยู่อาศัยในชุมชนได้ช่วยกันร่างระเบียบที่อยู่อาศัยโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงร่วมกัน รวมถึงช่วยกันสอดส่องไม่ให้มีการมั่วสุมยาเสพติดและการก่ออาชญากรรมต่างๆ
และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มผู้ที่แจ้งซ่อมห้องพักอาศัย ซึ่งการเคหะแห่งชาติได้ประสานกับบริษัทรับบริหารชุมชนและบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ได้รับการแจ้งซ่อมภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งผู้อยู่อาศัยมีความพึงพอใจต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และขอบคุณที่การเคหะแห่งชาติให้ความสำคัญกับผู้อยู่อาศัยเสมอมา
———————————————-