วันที่ 8 ตุลาคม 2561 นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ส่งมอบเงินของผู้เสียหายบางส่วนที่สามารถยับยั้งการถอนของมิจฉาชีพได้ มอบแด่พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้ดำเนินการบรรเทาความเสียหายให้กับประชาชน ดังนี้
1. คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 3 ราย จำนวนเงิน 579,351 บาท ซึ่งก่อนหน้าได้ส่งมอบเงินของผู้เสียหายที่สามารถยับยั้งการถอนจากมิจฉาชีพแล้ว จำนวน 96 ราย รวมเป็นเงิน 19,258,007.87 บาท และในวันนี้ (8 ต.ค.61) ได้ส่งมอบเงินของผู้เสียหายที่สามารถยับยั้งการถอนจากมิจฉาชีพ จำนวน 3 ราย จำนวนเงิน 579,351 บาท รวมส่งมอบเงินคืนผู้เสียหายไปแล้วทั้งสิ้น 99 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 19,837,358.87 บาท
2. คดี ROMANCE SCAM จำนวน 2 ราย จำนวนเงิน 85,000 บาท ซึ่งก่อนหน้าได้ส่งมอบเงินของผู้เสียหายที่สามารถยับยั้งการถอนจากมิจฉาชีพแล้ว จำนวน 9 ราย รวมเป็นเงิน 2,085,089.10 บาท และในวันนี้ (8 ต.ค.61) ได้ส่งมอบเงินของผู้เสียหายที่สามารถยับยั้งการถอนจากมิจฉาชีพ จำนวน 2 ราย จำนวนเงิน 85,000 บาท รวมส่งมอบเงินคืนผู้เสียหายไปแล้วทั้งสิ้น 11 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,170,089.10 บาท
สำหรับสถิติการรับเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ปปง. มีผู้แจ้งผ่านสายด่วน ปปง. 1710 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 จนถึงปัจจุบัน (8 ต.ค.61) มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงิน จำนวน 417 ราย เหตุเกิดแล้วรีบแจ้ง 219 ราย เหตุเกิดแล้วแจ้งภายหลัง 198 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 189,356,287 บาท
สำหรับสถิติการรับเรื่องคดี ROMANCE SCAM ตั้งแต่สำนักงาน ปปง. ได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อปฏิบัติการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยเรียกย่อว่า “ศปง.ปปง.” เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 จนถึงปัจจุบัน (8 ต.ค.61) ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงิน จำนวน 155 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 88,571,038.23 บาท
นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สำนักงาน ปปง. สถาบันการเงิน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนหลายกลุ่ม แต่มิจฉาชีพก็ยังพยายามหลบหนีและหลบเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ จึงขอแจ้งเตือนประชาชน ขอให้ประชาชนรับฟังการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานของรัฐ และอย่าหลงเชื่อ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพใช้บัญชีของประชาชนเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดอีกต่อไป และหากถูกหลอกแล้วให้รีบโทรแจ้ง ศปก.ปปง. สายด่วน ปปง. 1710 ซึ่งเปิดทำการทุกวันโดยไม่เว้นวันหยุดราชการ