นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม) ให้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป รอบพิเศษ ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม 2561 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อเร่งหารือตามแนวทางการเจรจาที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ป เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งรัฐมนตรีของสมาชิก 16 ประเทศ ต่างเห็นพ้องที่จะเร่งหาข้อสรุปประเด็นสำคัญของการเจรจาภายในปีนี้ โดยได้วางแผนการทำงานเพื่อเร่งผลักดันการเจรจาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ คณะกรรมการเจรจาฯ จะรายงานผลจากการประชุมรอบพิเศษนี้ต่อรัฐมนตรี ในการประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ป สมัยพิเศษ ครั้งที่ 6 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม 2561 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
นายรณรงค์ กล่าวว่า การประชุมรอบพิเศษนี้จะมุ่งเน้นการเจรจาเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเจรจา โดยที่ประชุมจะร่วมกันหารือความคืบหน้าการปรับปรุงข้อเสนอเปิดตลาดของประเทศสมาชิก โดยเฉพาะเรื่องรูปแบบการลดภาษีสินค้า อีกทั้งจะมีการหารือสองฝ่ายเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกตอบสนองต่อข้อเรียกร้องระหว่างกัน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะต้องรายงานผลความคืบหน้าให้ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีพิจารณาและประเมินผลการปรับปรุงข้อเสนอเปิดตลาดล่าสุด ซึ่งในส่วนของการเปิดตลาดสินค้า ต้องให้มีการยกเลิกภาษีศุลกากรร้อยละ 92 ของรายการสินค้าทั้งหมดโดยยืดหยุ่นให้ลดภาษีได้ในระยะเวลา 20 ปี ในส่วนของการค้าบริการและการลงทุน ต้องให้ได้ข้อเสนอเปิดตลาดที่มีนัยสำคัญเชิงพาณิชย์และตอบสนองข้อเรียกร้องของสมาชิกให้มากที่สุด รวมถึงให้ปรับปรุงกฎหมายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจและการลงทุน โดยสมาชิกจะต้องหาจุดสมดุลของผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งไทยจะกำหนดท่าทีการเจรจาที่คำนึงถึงผลประโยชน์ทั้งของประเทศไทยและของสมาชิกทั้งหมด ก่อนที่จะเปิดให้สมาชิกยื่นข้อเสนอเปิดตลาดครั้งสุดท้าย ในวันที่ 15 ตุลาคม 2561 จากนั้น คณะเจรจาฯ จะนำแนวทางที่ได้รับไปหารือต่อในการประชุมเจรจารอบที่ 24 ระหว่างวันที่ 20-27 ตุลาคม 2561 ณ ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นการประชุมระดับเทคนิคครั้งสุดท้ายของปีนี้ โดยรัฐมนตรีอาร์เซ็ปจะมีการหารือรอบสุดท้ายและรายงานผลต่อที่ประชุมผู้นำอาร์เซ็ป ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
นายรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาชิกอาร์เซ็ปรวมถึงไทยต่างมุ่งมั่นให้การเจรจาบรรลุผลตามเป้าหมาย เพื่อให้ผู้นำสามารถประกาศสรุปผลการเจรจาได้อย่างมีนัยสำคัญภายในปีนี้ โดยตั้งเป้าให้มีข้อสรุปในประเด็นหลักที่นอกเหนือจากเรื่องการเปิดตลาด ได้แก่ เรื่องสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช กฎระเบียบทางเทคนิค พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การแข่งขัน การระงับข้อพิพาท และสรุปข้อบทส่วนใหญ่ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การเยียวยาทางการค้า กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า การเงิน โทรคมนาคม อีกทั้งมีเป้าหมายให้สรุปผลการเจรจาทั้งหมดภายในปีหน้า โดยไทยในฐานะประธานอาเซียนในปีหน้าจะเร่งขับเคลื่อนและผลักดันให้สรุปการเจรจาอาร์เซ็ปทั้งหมดภายในปี 2562