รมว.แรงงาน เปิดการเสวนาฯ และบรรยายพิเศษ หัวข้อ “เยาวชนคนรุ่นใหม่กั บตลาดแรงงานไทย” ร่วมมูลนิธิเด็กโสสะฯ บ.เอกชน ผนึกกำลังผลิตแรงงานศักยภาพสู งป้อนตลาดแรงงาน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิ ดงานเสวนาเยาวชนโสสะ ประจำปี 2561 (Youth Can!) และบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “เยาวชนคนรุ่นใหม่กั บตลาดแรงงานไทย” ณ ห้องบอลรูม 2 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โดยกล่าวว่า ในนามของรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณมูลนิธิเด็กโสสะฯ ที่ได้ให้ความสำคัญกับเยาวชนที่ สูญเสียบิดา มารดา และขาดญาติมิตร โดยได้จัดสภาพแวดล้อมเสมื อนครอบครัว ให้เป็น “ครอบครัวทดแทนถาวร” และได้ดูแลเอาใจใส่อย่างอบอุ่น ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาสูงสุ ดตามกำลังความสามารถของเด็กแต่ ละคน พร้อมทั้งอบรมเลี้ยงดูให้มีคุ ณธรรมจริยธรรม มีอาชีพ ที่สามารถช่วยเหลื อตนเองและครอบครัวได้ ให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของสั งคมและประเทศชาติ ผ่านการสนับสนุนเลี้ยงดูจากผู้ มีจิตศรัทธา โดยปัจจุบันมีเด็กในการอุปถัมภ์ พักอาศัยอย่างถาวรอยู่ในหมู่บ้ านเด็กโสสะ ประมาณ 700 คน จากทั่วประเทศ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ สงขลา เชียงราย หนองคาย และภูเก็ต
การจัดงานเสวนาเยาวชนโสสะ ประจำปี 2561 (Youth Can!) ในครั้งนี้ มูลนิธิเด็กโสสะ บริษัทเอกชน และกระทรวงแรงงาน ได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมให้กับเยาวชนสู่ โลกของการทำงาน และสอดคล้องกับความต้ องการของตลาดแรงงาน โดยมีทักษะที่จำเป็นต่ อการประกอบอาชีพ การฝึกงาน รวมทั้งเพื่อสนับสนุ นโอกาสการทำงานในบริษัทฯ ให้กับเยาวชนจากครอบครัวโสสะ อันจะส่งผลต่อการผลักดันให้เกิ ดทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพเข้ าสู่ตลาดแรงงานไทย ผ่านกลไกการลดความเหลื่อมล้ำ ของสังคม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามนโยบายรัฐบาล
“สำหรับการเข้าสู่ ตลาดแรงงานของเยาวชนจากครอบครั วโสสะ กระทรวงแรงงานมีความเห็นว่า นอกจากการเรียนรู้ในระบบการศึ กษาแล้ว การที่เยาวชนจะเป็นแรงงานที่มี คุณภาพ จำเป็นต้องมี ทักษะ 2 ส่วนที่สำคัญที่สามารถสร้ างความแตกต่างจากแรงงานรุ่นใหม่ อื่นๆ คือ 1) ทักษะทางปัญญา ได้แก่ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยีสารสนเทศ การคำนวณ ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ไขปัญหา ความชำนาญ/มืออาชีพ และ 2) ทักษาทางพฤติกรรม ได้แก่ความเป็นผู้นำ การบริหารเวลา การติดต่อสื่อสาร การเข้าสังคม การปรับตัว และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเยาวชนทุกคนจะต้องใส่ใจรั บรู้การเปลี่ยนแปลงของโลก มีการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอาชี พอนาคตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนภาครัฐและภาคเอกชนจะต้ องมีส่วนร่วมและสนับสนุ นในการยกระดับฝีมือแรงงาน/ ความสามารถของแรงงานให้มีศั กยภาพสูงและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่ างยั่งยืนต่อไป” พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวในท้ายสุด