ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกอุบัติเหตุ 9 ชั้น โรงพยาบาลอุทัยธานี ซึ่งเป็นโครงการในพระราชกระแสรับสั่งในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เตรียมพร้อมเป็นโรงพยาบาลต้นแบบในการดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการ
วันที่ 2 ตุลาคม 2561 ที่ จ.อุทัยธานี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ รักษาราชการรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกอุบัติเหตุ 9 ชั้น โรงพยาบาลอุทัยธานี ซึ่งเป็นโครงการในพระราชกระแสรับสั่งใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเตรียมพร้อมเป็นโรงพยาบาลต้นแบบในการดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการ เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากจังหวัดอุทัยธานีก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ขณะนี้สัดส่วนผู้สูงอายุมีมากถึงร้อยละ 21.23
“นับเป็นความภาคภูมิใจของโรงพยาบาลอุทัยธานี เขตสุขภาพที่ 3 และกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ถวายงานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้มอบเป็นนโยบายสำคัญที่จะให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งร่วมกันดำเนินโครงการจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ โครงการพระราชดำริ โครงการเฉลิมพระเกียรติและโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พร้อมทั้งติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง” นายแพทย์สุขุมกล่าว
สำหรับอาคารผู้ป่วยนอกอุบัติเหตุ 9 ชั้นแห่งนี้ เริ่มก่อสร้างเมื่อมีนาคม 2560 โดยได้รับมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์อาคาร เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 25 โดยชั้นที่ 1 เป็นหน่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน ห้องบัตรและห้องจ่ายยาผู้ป่วยนอก ชั้น 2 เป็นห้องตรวจอายุรกรรมและคลินิกผู้สูงอายุ ชั้น 3 เป็นห้องตรวจศัลยกรรมและสูตินรีเวชกรรม ชั้น 4 เป็นห้องทันตกรรม และทันตกรรมเฉพาะทาง ชั้น 5 ห้องตรวจจักษุวิทยาและ โสต ศอ นาสิก ชั้น 6 เป็นหน่วยไตเทียม และชั้น 7 – 8 เป็นหน่วยงานสนับสนุนบริการ ชั้น 9 เป็นห้องทรงงาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธันวาคม 2562 และเปิดให้บริการประชาชนได้ประมาณกลางปี 2563 ซึ่งจะรองรับการขยายบริการของโรงพยาบาลอุทัยธานี ให้มีความพร้อมทางด้านการบริการผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ รองรับสังคมผู้สูงอายุ ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ